แนวโน้มหุ้นไทยเข้านี้บวกอ่อนรอตัวเลขจ้างงานสหรัฐ-จับตาการเมืองในปท.

นักวิเคราะห์ฯคาดตลาดหุ้นไทยเช้านี้เคลื่อนไหวในแดนบวก หรืออาจไม่ปรับขึ้นหรือลงแรง แกว่งแคบบริเวณ 1,650 จุด หลังหุ้นบิ๊กแคปขึ้นไปพอควร และรอตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐชี้ทิศทางนโยบายการเงินของเฟด อีกทั้งสถานการณ์การเมืองไทยมีความเสี่ยง แต่ดอลลาร์อ่อนค่าหนุนเม็ดเงินต่างประเทศไหลเข้าตลาดเอเชียที่ underperform ตลาดสหรัฐ-ยุโรป ให้แนวรับ 1,643 จุด แนวต้าน 1,655 จุด

นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าบวกได้ต่อ โดยจะเคลื่อนไหวอยู่ที่บริเวณ 1,650 จุด ยังไม่ปรับขึ้นหรือลงแรง เนื่องจากว่าหุ้นใหญ่ขึ้นมาพอสมควรแล้ว อีกทั้งตลาดยังคงรอตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯคืนนี้ เพื่อให่เห็นทิศทางการปรับนโยการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)

ขณะเดียวกันสถานการณ์การเมืองภายในประเทศมีความเสี่ยงเกิดการเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง หลังจากการเลือกตั้งเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา ทำให้หุ้นขนาดใหญ่หลายตัวยังไม่เคลื่อนไหวมาก เนื่องจากมีความเกี่ยวพันกับการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง แต่หุ้นที่สภาพคล่องไม่ได้สูง อย่าง DELTA, INTOUCH, MACRO ยังเคลื่อนไหวได้ดี รวมถึงหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็กหลายตัวเริ่มเคลื่อนไหวมากขึ้น ดังนั้นภาพวันนี้จึงมีหลายอัพไซด์ให้ตลาดฯ รอติดตาม

ด้านตลาดภูมิภาคเอเชีย คาดว่าการที่ค่าเงินสหรัฐฯที่อ่อนค่าลง ยังเป็นปัจจัยบวกต่อทิศทางเงินทุนที่ไหลเข้าตลาดฝั่งเอเชีย ประกอบกับ ที่ผ่านมาตลาดเอเชียได้รับผลกระทบจากโควิด-19 แรงกว่าสหรัฐฯและยุโรป ทำให้ Underperform ในช่วงที่ผ่านมา จึงกลายเป็นข้อดี เพราะตลาดสหรัฐฯและยุโรปมี Fund Flow เข้าไปอยู่มากแล้ว เลยทำให้นักลงทุนต่างชาติเริ่มพยายามหาตลาดใหม่ที่ยังมีโอกาสรองรับเม็ดเงินอยู่

พร้อมให้แนวรับที่ 1,643 จุด และแนวต้าน 1,655 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (2 ก.ย.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 35,443.82 จุด เพิ่มขึ้น 131.29 จุด (+0.37%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,536.95 จุด เพิ่มขึ้น 12.86 จุด (+0.28%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,331.18 จุด เพิ่มขึ้น 21.80 จุด (+0.14%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,602.74 จุด เพิ่มขึ้น 5.70 จุด (+0.16%), ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 28,626.48 จุด เพิ่มขึ้น 82.97 จุด (+0.29%) และดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 26,022.67 จุด ลดลง 67.76 จุด (-0.26%)
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (2 ก.ย.)1,647.75 จุด เพิ่มขึ้น 13.27 จุด (+0.81%)
  • นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 3,312.68 ล้านบาท เมื่อวันที่ 2 ก.ย.64
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ต.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (2 ก.ย.) ปิด 73.03 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 1.44 ดอลลาร์ หรือ 2%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (2 ก.ย.) อยู่ที่ 4.06 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิดเช้านี้ 32.42 แข็งค่าตามทิศทางตลาดโลกหลังดออลาร์อ่อนลง
  • “ประยุทธ์” เคลียร์ใจ “ส.ส.พปชร.” ทุ่มแหลกแลกโหวต “สันติ” แยกทาง “4 ช.” รวมเสียงนำทีมช่วยนายกฯ สาย “ธรรมนัส” เดินเกมงัด 2 ป.ต่อ จับตา “ประวิตร” เรียกประชุม ส.ส. 3 ก.ย. “รมต.แต้มต่ำ” ผวาขอเสียงโหวต ขณะที่เวทีซักฟอกปูดจ่าย 5 ล้าน ไล่บี้ “เงินทอน” วัคซีน ซัด ทอ.ล็อกสเปกศูนย์ 191 นายกฯยันไม่มีถุงขนม
  • สบน.เตรียมทำแผนบริหารหนี้ระยะปานกลาง 5 ปี วางแผนกู้เงินฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังโควิดคลี่คลาย บอร์ดวินัยการเงินการคลัง นัดถกกรอบเพดานการก่อหนี้ ชี้ขยับกรอบได้จากปัจจุบันไม่เกิน 60% ของจีดีพี “หอการค้า” เร่งรัฐฉีดบูสเตอร์เข็ม 3 ยันไม่ปิด 25 ศูนย์ฉีดเอกชน
  • “อาคม” ชี้ธุรกิจสายการบินดีขึ้นหลังคลายล็อก “เอ็กซิมแบงก์” เร่งช่วยสายการบิน “คมนาคม” เผยเปิดบินวันแรก มีผู้โดยสาร 7 พันคน 130 เที่ยวบิน พบผู้โดยสารเลิกเดินทางอื้อ เหตุสนามบินภูเก็ตยังล็อกดาวน์ต่อเนื่อง
  • ประธาน FETCO คาดเทรนด์ควบรวมมีต่อเนื่อง เหตุ บจ.ใหญ่สภาพคล่องสูง-อานิสงส์ต้นทุนดอกเบี้ยต่ำ “สมาคมโบรกฯ” ชี้ช่วงวิกฤติโควิด ภาคธุรกิจเห็นประโยชน์การจับมือพันธมิตรหนุนการเติบโตร่วมกัน บล.ทรีนีตี้ เผย บจ.ปรับตัวทั้งปรับโครงสร้างภายในกลุ่มเพื่อลดต้นทุน
  • “อธิป พีชานนท์” ชี้ปัจจัยลบ โควิด เศรษฐกิจ การเมือง ฉุดเชื่อมั่น อสังหาฯซึม ประเมินภาพรวมปีนี้ติดลบ 15% หนักกว่า ปี 63 “คอนโด” ติดลบไม่ต่ำกว่า 30% “แนวราบ” ชะลอตัว ไม่ถึง 10% หวัง 4 เดือน สุดท้ายสถานการณ์กระเตื้อง
  • โฆษกกระทรวงการคลัง เผยคลังปรับเงื่อนไขการใช้จ่ายโครงการ “ยิ่งใช้ยิ่งได้” เปิดโอกาสร้านอาหารในโครงการสามารถเข้าร่วมการใช้จ่ายผ่านแพลตฟอร์มสั่งอาหารดีลิเวอรีออนไลน์ได้ตั้งแต่เดือน ต.ค.64 เช่นเดียวกับร้านอาหารโครงการ “คนละครึ่ง”สามารถรับเงินจากผู้ใช้สิทธิสั่งอาหารแพลตฟอร์มดีลิเวอรีได้ช่วงเดือนต.ค.เช่นกัน อำนวยความสะดวกให้ประชาชนและช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้อีกทางหนึ่ง

หุ้นเด่นวันนี้

  • SMT (ฟินันเซีย ไซรัส) “ซื้อ” เป้า 8 บาท เงินบาทเริ่มพลิกกลับมาอ่อนค่าระยะสั้นเป็น Sentiment บวกหนุนให้กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์กลับมาฟื้นตัว หลังจากปรับฐานแรง 10-15% ในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา แนวโน้มกำไร H2/64 ยังโดดเด่นและคาดทำจุดสุงสุดใน Q4/64 จากคำสั่งซื้อที่ครอบคลุมยาวทั้งปีแล้ว ขณะที่ Margin คาดทำได้ตามเป้า คาดกำไรปี 64-65 +175% Y-Y และ +33% Y-Y
  • EA (เคทีบีเอสที) เป้าเชิงกลยุทธ์ 68.00 บาท คาดรถบัสไฟฟ้าจะเริ่มทำตลาดได้ในปี 65 จาก บ. เอกชน (เดินรถระหว่าง จว.) เริ่มเปลี่ยนรถ, ด้านโรงงานแบตเตอรี่พร้อม COD Q4/64 โดยในปี 65 โรงไฟฟ้า Solar จะได้ประโยชน์จากการ Upgrade แผง Solar เต็มปี เป็นบวกต่อกำไร พร้อมติดตามการลงทุนในโครงการใหม่ Bloomberg Consensus ประเมินกำไรสุทธิปี 64-65 ที่ 6.25 พัน ลบ. และ 7.8 พัน ลบ. เติบโต +20%YoY, +25%YoY ตามลำดับ

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (03 ก.ย. 64)

Tags: , , , ,
Back to Top