หุ้นไทยปิดเช้าบวก 7.36 จุดแรงซื้อ SCB-กลุ่มแบงก์จุดพลุแต่แรงขาย Non-Bank กดดัน

SET ช่วงเช้าปิดที่ระดับ 1,626.95 จุด เพิ่มขึ้น 7.36 จุด (+0.45%) มูลค่าการซื้อขายราว 77,154 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯ เผยตลาดหุ้นไทยเช้านี้เปิดกระโดดอย่างมีนัยจากการปรับขึ้นของ SCB นำกลุ่มแบก์ แต่กลุ่ม Non-Bank ปรับลงจากวิตกการแข่งขันรุนแรงขึ้นกดดันตลาด ขณะที่ผลประชุมเฟดส่งสัญญาณปรับลด QE เดือนพ.ย.ตามคาด แต่จะปรับขึ้นดอกเบี้ยเร็วขึ้นจากคาดปี 66 เป็นปี 65 กดดันเช่นกัน แนวโน้มตลาดช่วงบ่ายคาดแกว่งในกรอบ 1,620-1,630 จุด

ตลาดหลักทรัพย์ฯ ปิดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,626.95 จุด เพิ่มขึ้น 7.36 จุด (+0.45%) มูลค่าการซื้อขายราว 77,154 ล้านบาท

การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีเคลื่อนไหวแดนบวกตลอด โดยทำระดับสูงสุด 1,637.65 จุด และระดับต่ำสุด 1,623.00 จุด

นายสรพล วีระเมธีกุล ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กสิกรไทย กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้เปิดตลาดเช้าตลาดกระโดดอย่างมีนัย และเริ่มอ่อนตัวลงในช่วงเที่ยงจาก sell on fact โดยแรงซื้อหุ้น SCB เปิดกระโดดขึ้นไปทำจุดสูงสุด 137 บาท และย่อตัวลง 10 บาท ซึ่งทุกๆ 10 บาทส่งผลกระทบ SET ราว 3-4 จุด ขณะเดียวกันราคาหุ้นกลุ่มแบงก์ตัวอื่นก็ปรับขึ้นถ้วนหน้าและย่อตัวลงตาม

แต่ปัจจัยกดดันมาจากกลุ่มการเงิน (Non-Bank) ปรับตัวลง จากความกังวลการแข่งขันรุนแรงขึ้นหลัง SCB ประกาศรุกธุรกิจ

สินเชื่อจำนำทะเบียนรถ สินเชื่อส่วนบุคคล บัตรเครดิต โดยเห็นว่ากลุ่มบัตรเครดิตปรับลง แนะนำ AEONTS และ BAM ปรับตัวลงให้เป็น
จังหวะซื้อ ส่วนกลุ่มลีสซิ่ง TIDLOR, SAWAD, MTC ให้เลี่ยงการลงทุนไปก่อน

ส่วนผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งส้ญญาณจะปรับลด QE ในเดือนพ.ย.เป็นไปตามคาด แต่ก็ต้องเพิ่มความระมัดระวังหลังจากคาดการณ์ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย (Dot Plot) เร็วขึ้นเป็นในปี 65 จากเดิมคาดปรับขึ้นในปี 66 ทั้งนี้ คาดระยะกลาง ดัชนี SET น่าจะทะลุระดับ 1,660 จุดไม่ง่าย โดยแกว่งในกรอบ 1,585-1,660 จุด

แนวโน้มตลาดในช่วงบ่ายวันนี้คาดว่าตลาดจะแกว่งตัวในกรอบ 1,620-1,630 จุด

 

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่

  • SCB มูลค่าการซื้อขาย 14,550.14 ล้านบาท ปิดที่ 131.00 บาท เพิ่มขึ้น 21.50 บาท
  • KBANK มูลค่าการซื้อขาย 11,035.17 ล้านบาท ปิดที่ 129.50 บาท เพิ่มขึ้น 7.50 บาท
  • BBL มูลค่าการซื้อขาย 2,946.51 ล้านบาท ปิดที่ 116.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท
  • TIDLOR มูลค่าการซื้อขาย 2,198.02 ล้านบาท ปิดที่ 36.00 บาท ลดลง 1.50 บาท
  • SAWAD มูลค่าการซื้อขาย 1,470.90 ล้านบาท ปิดที่ 65.00 บาท ลดลง 2.50 บาท

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (23 ก.ย. 64)

Tags: , , ,
Back to Top