แนวโน้มดัชนีหุ้นไทยเช้านี้อ่อนลงตามตลาดหุ้นตปท.หลัง Bond yield สหรัฐพุ่ง

นักวิเคราะห์ฯคาดตลาดหุ้นไทยวันนี้อ่อนตัวหล้ง Bond yield สหรัฐฯพุ่งสร้างความกังวลตลาดหุ้นทั่วโลก ตลาดสหรัฐฯ-ยุโรปร่วงราว 2% และตลาดภูมิภาคเช้านี้แกว่งลบเป็นส่วนใหญ่ กังวลอัตราเงินเฟ้อ-ความไม่แน่นอนของกม.และเพดานหนี้ของสหรัฐ ส่วนบ้านเราวันนี้หุ้น PTT ขึ้น XD คาดกดดัชนีฯราว 3 จุด มอง Window Dressing อาจเกิดขึ้นรายตัวหลังทิศทางตลาดไม่ค่อยดี จับตาผล กนง.วันนี้ พร้อมให้แนวรับ 1,610-1,600 แนวต้าน 1,625 จุด

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะอ่อนตัวลง หลังจากที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Bond yield) สหรัฐปรับตัวขึ้นแรงมาอยู่ที่ 1.54% สร้างความกังวลไปทั่วโลก โดยตลาดหุ้นสหรัฐและตลาดยุโรปเมื่อคืนนี้ปรับตัวลงไปราว 2% ส่วนตลาดหุ้นภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่เคลื่อนไหวในแดนลบ ยังกังวลเรื่องเงินเฟ้อสหรัฐฯจะสูงขึ้น อีกทั้งมีความไม่แน่นอนเกี่ยวกับกฎหมายสหรัฐฯและเพดานหนี้

นอกจากนี้ วันนี้หุ้น PTT จะขึ้นเครื่องหมาย XD เพื่อจ่ายเงินปันผล 1.20 บาท/หุ้น คาดว่าจะกดดันดัชนีฯราว 3 จุด ขณะที่การทำ Window Dressing ก่อนปิดงบฯไตรมาส 3/64 คงคาดหวังได้เป็นรายตัว เนื่องจากทิศทางตลาดฯไม่ค่อยดี พร้อมให้ติดตามผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) วันนี้ และดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของไทย

พร้อมให้แนวรับ 1,610-1,600 จุด ส่วนแนวต้าน 1,625 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

– ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (28 ก.ย.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,299.99 จุด ลดลง 569.38 จุด (-1.63%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,352.63 จุด ลดลง 90.48 จุด (-2.04%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,546.68 จุด ลดลง 423.29 จุด (-2.83%)

– ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 28.7 จุด, ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ร่วงลง 572.04 จุด และดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 223.68 จุด

– ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (28 ก.ย.)1,616.50 จุด ลดลง 3.52 จุด (-0.22%)

– นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 3,347.28 ล้านบาท เมื่อวันที่ 28 ก.ย.64

– ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน พ.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (28 ก.ย.) ปิด 75.29 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 16 เซนต์ หรือ 0.2%

– ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (28 ก.ย.) อยู่ที่ 5.39 ดอลลาร์/บาร์เรล

– เงินบาทเปิด 33.89 อ่อนค่าในรอบ 4 ปี จับตามติ กนง. คาดกรอบ 33.80-34.00

– “เวิลด์แบงก์” หั่นจีดีพีไทยปีนี้โตแค่ 1% พิษโควิดกระทุ้งคนจนเพิ่มอีก 1.7 แสน ประเมินท่องเที่ยวยังอ่วม แซนด์บ็อกซ์ไม่แรงดึงต่างชาติเข้าไทยได้แค่หลักแสน ประเมินเศรษฐกิจกลับมาฟื้นตัวปี 66 ช้ากว่าเดิม 1 ปี หนุนขยับเพดานหนี้ช่วยประคอง ศก.ระยะสั้น

– แบงก์-นอนแบงก์ส่อป่วนหลัง ธปท.เตรียมออกมาตรการสั่งรวมหนี้ข้ามสถาบันการเงิน หวังช่วยลูกค้าลดภาระดอกเบี้ยสู้โควิด-19 พร้อมห้ามคิดค่าธรรมเนียมโปะหนี้ คาดมีผลกลางเดือน ต.ค.64 “ไทยพาณิชย์” หวั่นลูกค้าสร้างหนี้เพิ่ม แนะมาตรการปรับโครงสร้างหนี้ยั่งยืนกว่าฝั่ง “นอนแบงก์” จับตามาตรการใหม่ใกล้ชิด

– รฟม.เดินหน้าประมูลรถไฟฟ้าสีม่วงใต้ “เตาปูน-ราษฎร์บูรณะ” รอบใหม่ 7.8 หมื่นเตรียมเปิดขายซอง ต.ค.นี้ ด้าน ครม.ไฟเขียว รฟท.กู้เงิน 13,500 ล้านบาท แก้ปัญหาขาดสภาพคล่อง

– แผนบริหารหนี้สาธารณะปีงบฯ 65 ผ่านฉลุย ครม.เซย์เยสแผนก่อหนี้ใหม่ 1.34 ล้านล้านบาท บริหารหนี้เดิม 1.5 ล้านล้านบาท และชำระหนี้อีก 3.39 แสนล้านบาท ปักธงกู้สู้โควิด 3.55 แสนล้านบาท รับดันยอดหนี้สาธารณะต่อจีดีพีเดือน ก.ย.65 พุ่งแตะ 62.69%

– ก.ล.ต. เร่งสกัดทุจริต ปล่อยข่าวลือบนโซเชียลปั่นหุ้น ชูเครื่องมือ “e-enforcement” มาใช้ “ป้องกัน” และ “ตรวจจับ” ได้เร็วกว่าปกติ 20-30% สามารถดำเนินการจับกุมในระยะเวลาไม่ถึงปี พร้อมลุยสางคดีเก่าที่ค้างจำนวนมาก

หุ้นเด่นวันนี้

– TU (กรุงศรี) “ซื้อ”เป้า 22.60 บาท ได้ Sentiment บวกเงินบาทอ่อนค่ามากสุดในรอบ 4 ปี ธุรกิจเข้าสู่ High season และปลายปีนี้และปีหน้ามี Story นำบริษัทลูกเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ คือ TFM ผลิตและจำหน่ายอาหารสัตว์น้ำทั้งในประเทศและต่างประเทศ และ i-Tail ผู้ผลิตอาหารสัตว์เลี้ยงรายใหญ่อันดับ 15 ของโลก

– ORI (ฟินันเซีย ไซรัส) “ซื้อ”เป้าปี 65 ที่ 13 บาท โมเมนตัมกำไร H2/64 คาดเร่งขึ้นทั้ง H-H และ Y-Y จากโครงการใหม่สร้างเสร็จอีก 4 โครงการ แม้การปิดแคมป์จะกระทบบ้าง แต่คาดเริ่มโอนได้ 2 โครงการในเดือน ก.ย. โดยมีสต็อกคอนโดพร้อมโอนกว่า 1 หมื่นลบ.ระยะยาวได้แรงหนุน JV ร่วมกับ Partner อุตสาหกรรมอื่นๆ เกิด Synergy และเพิ่มรายได้ประจำ และมี Catalyst จากการ Spin-Off บริทาเนียและให้สิทธิผู้ถือหุ้น ORI จองซื้อ ให้แนวรับ 9.60 บาท แนวต้าน 10/10.40 บาท

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (29 ก.ย. 64)

Tags: , , ,
Back to Top