กนอ.เร่งศึกษาแนวทางจัดตั้งนิคมฯ ราชทัณฑ์ สร้างโอกาสคืนคนดีสู่สังคม

นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 19 ต.ค.ที่ผ่านมา ที่ประชุม ครม.รับทราบผลการศึกษาจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมราชทัณฑ์ ตามที่กระทรวงยุติธรรมได้ทำการศึกษา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อแก้ปัญหาผู้ต้องขังล้นเรือนจำ ฝึกทักษะอาชีพ พัฒนายกระดับฝีมือแรงงาน และสร้างผู้พ้นโทษให้เป็นผู้ประกอบการรายใหม่ ซึ่งเป็นการสร้างอาชีพในอนาคต ลดจำนวนอัตราการกระทำผิดซ้ำของผู้ต้องขัง โดยกลุ่มเป้าหมายคือผู้พ้นโทษและผู้อยู่ระหว่างพักการลงโทษหรือลดจำนวนวันต้องโทษ โดย กนอ.จะนำแนวทางที่ได้จากข้อเสนอแนะของ ครม.ไปร่วมหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาแนวทางดำเนินงานตามมติ ครม.ต่อไป

เบื้องต้นจากการศึกษารูปแบบการดำเนินงานที่เหมาะสมนั้น จะดำเนินการในลักษณะของการเชิญชวนผู้ประกอบการ ซึ่งเป็นนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มีความเชี่ยวชาญในการพัฒนานิคมอุตสาหกรรม เป็นผู้จัดหาที่ดินของเอกชนและพัฒนาเป็นนิคมฯ เพื่อให้เกิดความคล่องตัวและมีประสิทธิภาพ โดยรัฐสนับสนุนสิทธิประโยชน์ต่างๆ และ กนอ.ทำหน้าที่ตรวจสอบ กำกับดูแล เพื่อให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการในการจัดตั้งหรือขยายนิคมอุตสาหกรรม ส่วนการคัดเลือกผู้ประกอบธุรกิจจะเน้นนวัตกรรม แรงงานใช้ทักษะฝีมือ และรูปแบบธุรกิจที่ทันสมัย

“กนอ.จะเร่งศึกษาความเป็นไปได้ มาตรการ และสิทธิประโยชน์ เพื่อดึงดูดนักลงทุน อาทิ จัดให้มีบริการระบบสาธารณูปโภคและสิ่งอำนวยความสะดวกที่เอื้อต่อการประกอบกิจการในนิคมอุตสาหกรรม, การให้บริการอนุมัติ อนุญาต และกำกับดูแลการประกอบกิจการของผู้ประกอบการในนิคมอุตสาหกรรม, การยกเว้นค่าใช้จ่ายร่วมดำเนินงานนิคมอุตสาหกรรมให้แก่ผู้พัฒนานิคมอุตสาหกรรม เช่น ค่าธรรมเนียมและบริการร่วมดำเนินงาน และการจัดให้มีและให้บริการสิทธิประโยชน์ที่สอดคล้องกับความต้องการของผู้ประกอบการในนิคมอุตสาหกรรม ตลอดจนควบคุม กำกับดูแล และประสานการจัดการด้านสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัยของนิคมฯ ให้เป็นไปตามกฎหมาย ทั้งนี้ จะให้เอกชนเป็นผู้จัดหาพื้นที่ โดยเน้นศึกษาความเป็นไปได้ในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ และสมุทรสาครก่อน ซึ่ง กนอ.ขอใช้โอกาสนี้เชิญชวนภาคเอกชนที่สนใจให้มาร่วมลงทุน โดย กนอ.ยินดีให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่”นายวีริศฯ กล่าว

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (22 ต.ค. 64)

Tags: , , ,
Back to Top