AWC พร้อมรับเปิดประเทศ 1 พ.ย.เผยอัตราจองที่พักล่วงหน้าบางโรงแรมพุ่งกว่า 2 เท่า

นางวัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.แอสเสท เวิรด์ คอร์ปอเรชั่น (AWC ) เปิดเผยว่า จากนโยบายการเปิดประเทศตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. 64 โรงแรมในเครือ AWC มีความพร้อมสำหรับการต้อนรับการกลับมาของนักท่องเที่ยวอย่างเต็มที่ โดยทุกโรงแรมทั้ง 18 แห่งได้รับการรับรองตราสัญลักษณ์ Amazing Thailand Safety & Health Administration หรือ SHA+ แสดงให้เห็นถึงแสดงความปลอดภัย พร้อมดำเนินงานภายใต้มาตรฐานของเชนบริหารโรงแรมระดับโลก เสริมด้วยรูปแบบเป็นศูนย์กลางการบริการครบวงจรทั้งเรื่องการเตรียมเอกสารและการตรวจโควิด-19 พร้อมให้ความสำคัญและเข้มงวดในเรื่องความสะอาด สุขอนามัย ความปลอดภัยและประสบการณ์การเดินทาง และพักผ่อนที่น่าประทับใจสำหรับแขกผู้มาใช้บริการ

“AWC ได้รับสัญญาณที่ดีจากการตอบรับในทันที ส่งผลบวกให้อัตราการจองที่พักบางโรงแรมในเครือพุ่งสูงขึ้นกว่า 2 เท่าในเดือนธ.ค. 64 เมื่อเทียบกับช่วงก่อนสถานการณ์โควิด-19 โดยเฉพาะโรงแรม ในกรุงเทพฯ ภูเก็ต และแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ ได้แก่ โรงแรมวันนาเบล สมุย, โรงแรม บันยันทรี กระบี่ ซึ่งถือเป็นเรื่องที่น่ายินดีเป็นอย่างยิ่งที่อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจะกลับมาคึกคักอีกครั้ง ถือเป็นการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในภาพรวมของประเทศไปด้วยกันอันจะสะท้อนให้เห็นทิศทางบวกในไตรมาส 4” นางวัลลภา กล่าว

นอกจากนี้ บริษัทยังได้เสริมศักยภาพการท่องเที่ยว ด้วยการเปิดตัวโรงแรม คอร์ทยาร์ด แมริออท ภูเก็ต ทาวน์ ให้บริการแขกและนักท่องเที่ยวในวันที่ 9 พฤศจิกายนนี้ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งโรงแรมคุณภาพในเครือ AWC ตั้งอยู่ใจกลางเมืองภูเก็ต “ไข่มุกเม็ดงามแห่งอันดามัน” ซึ่งถือเป็นจุดหมายปลายทางของการท่องเที่ยวระดับโลก ตั้งอยู่บนถนนถลางใจกลางพื้นที่ประวัติศาสตร์ย่านเมืองเก่าเป็นตำนานคู่เมืองภูเก็ต นำเสนอความสะดวกสบายให้แขกผู้มาเยือน พร้อมส่งมอบประสบการณ์สุดพิเศษที่ผสมผสานวัฒนธรรมอันงดงามของภูเก็ตไว้อย่างลงตัว

เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าและนักท่องเที่ยวในการเข้าใช้บริการมากยิ่งขึ้น ปัจจุบันพนักงานของโรงแรมในเครือทุกแห่งของ AWC ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 แล้ว นอกจากนี้กลุ่มธุรกิจรีเทลยังได้จัดทำแผนแม่บท “The Core 5 for Safety and Clean” เพื่อดูแลพนักงาน ผู้เช่า และลูกค้า ประกอบด้วย

1. Secure Screening การคัดกรองตรวจวัดอุณหภูมิทุกคนที่เข้ามาพื้นที่และสแกนแอปพลิเคชันไทยชนะก่อนเข้าใช้บริการทุกครั้ง

2. Social Distancing การเว้นระยะห่างและบริหารจัดการปริมาณการรวมกลุ่มของคน

3. Super Hygienic Cleaning การให้ความสำคัญกับสุขอนามัย ทำความสะอาดอุปกรณ์พื้นผิวที่มีการสัมผัสบ่อยทุกชั่วโมง และพื้นที่สาธารณะทุก 2 ชั่วโมง

4. Support Care Service การสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องด้านสุขอนามัยแก่ทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องเพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ

5. Safety Trace การจัดเก็บฐานข้อมูล นอกจากการคัดกรองผู้ใช้บริการผ่านแอปไทยชนะยังพัฒนาแอปพลิเคชันขึ้นมาโดยเฉพาะอีกด้วย

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (28 ต.ค. 64)

Tags: , , , ,
Back to Top