ยอดส่งออกของญี่ปุ่นเดือนต.ค.โต 9.4% ชะลอตัวมากที่สุดในรอบ 8 เดือน

ยอดส่งออกของญี่ปุ่นในเดือนต.ค.ชะลอการขยายตัว และได้ยุติการขยายตัวในอัตราเลขสองหลักที่ดำเนินมาติดต่อกัน 7 เดือน เนื่องจากการส่งออกรถยนต์ไปยังสหรัฐและจีนลดลง ซึ่งบ่งชี้ให้เห็นถึงความเสี่ยงจากภาวะชะงักงันของห่วงโซ่อุปทานทั่วโลกที่มีต่อเศรษฐกิจญี่ปุ่นที่ต้องพึ่งพาการส่งออก

การขยายตัวของยอดส่งออกที่ชะลอลงแสดงให้เห็นว่า ญี่ปุ่นมีความอ่อนไหวต่อภาวะชะงักงันของห่วงโซ่อุปทานที่ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมรถยนต์เป็นพิเศษ และได้บดบังแนวโน้มความต้องการจากต่างประเทศ

ทั้งนี้ กระทรวงการคลังญี่ปุ่นเปิดเผยข้อมูลการค้าในวันนี้ระบุว่า ยอดส่งออกในเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 9.4% เมื่อเทียบรายปี หลังจากพุ่งขึ้น 13.0% ในเดือนก.ย. และต่ำกว่าเล็กน้อยจากค่ากลางในผลสำรวจของรอยเตอร์ที่ตลาดคาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 9.9%

ยอดส่งออกไปยังจีนซึ่งเป็นประเทศคู่ค้ารายใหญ่สุดของญี่ปุ่นนั้น เพิ่มขึ้น 9.5% ในเดือนต.ค.เมื่อเทียบรายปี ชะลอตัวลงจาก 10.3% ในเดือนก.ย. เนื่องจากการส่งออกรถยนต์ไปยังจีน ร่วงลง 46.8%

นอกจากนี้ ยอดส่งออกไปยังสหรัฐซึ่งเป็นอีกหนึ่งตลาดสำคัญสำหรับสินค้าญี่ปุ่น เพิ่มขึ้นเพียง 0.4% ในเดือนต.ค. เนื่องจากยอดส่งออกรถยนต์ ร่วงลง 46.4%

ส่วนยอดนำเข้าเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 26.7% จากปีที่แล้ว เทียบกับค่ากลางที่คาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 31.9% ส่งผลให้ญี่ปุ่นมียอดขาดดุลการค้าในเดือนต.ค.ที่ระดับ 6.74 หมื่นล้านเยน (586.6 ล้านดอลลาร์) เทียบกับค่ากลางที่คาดการณ์ไว้ว่าจะขาดดุล 3.1 แสนล้านเยน

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (17 พ.ย. 64)

Tags: ,
Back to Top