A5 เผยผลงาน 9 เดือนโตหนุนรายได้ทั้งปีไม่ต่ำกว่า 800 ลบ.จากทยอยโอนโครงการ

นายศุภโชค ปัญจทรัพย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอสเซท ไฟว์ กรุ๊ป (A5) เปิดเผยว่า แม้ภาพรวมตลาดที่อยู่อาศัยในปีนี้อยู่ในช่วงชะลอตัวตามภาวะเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากการบังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์เพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างไรก็ตามผลการดำเนินงานของบริษัทงวด 9 เดือนแรกของปีนี้ยังอยู่ในระดับที่น่าพอใจ โดยมีรายได้รวม 662.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และกำไรสุทธิ 109.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 103.5% เมื่อเทียบกับช่วงกันของปีก่อน

ทั้งนี้ บริษัทมีปัจจัยมาจากการรับรู้รายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์ในโครงการอสังหาริมทรัพย์ ได้แก่ โครงการ วนา เรสซิเดนซ์ พระราม 9 – ศรีนครินทร์ รับรู้ฯ การโอนบ้านเดี่ยวในโครงการรวมมูลค่า 420.56 ล้านบาท, โครงการรชยา วงแหวน-นาดี รับรู้รายได้รวม 105.6 ล้านบาท และ คอนโดมิเนียมไวโอ แคราย 2 โครงการ รับรู้รายได้รวม 19 ล้านบาท นอกจากนี้ บริษัทมีกำไรพิเศษจากการขายที่ดิน 105.2 ล้านบาทช่วยสนับสนุนกำไรเติบโตได้ดี

ขณะที่แนวโน้มผลการดำเนินงานทั้งปี 64 คาดว่าจะทำรายได้รวมไม่ต่ำกว่า 800 ล้านบาทอยู่ในระดับเดียวกับปีที่ผ่านมา โดยรายได้หลักจะมาจากการโอนกรรมสิทธิ์บ้านเดี่ยวในโครงการ วนา เรสซิเดนซ์ พระราม 9-ศรีนครินทร์ บ้านเดี่ยว 3 ชั้นระดับลักซ์ชัวรี่ บนทำเลศักยภาพของกรุงเทพฯ ติดถนนสายหลัก (กรุงเทพกรีฑาตัดใหม่) ปัจจุบันอยู่ระหว่างเปิดขายและจัดทำแคมเปญบ้านเฟสสุดท้าย (Private Zone) ที่เป็นแบบบ้านหลังใหญ่สุดของโครงการ ขนาดพื้นที่ใช้สอย 492 ตร.ม. ในราคาเริ่มต้นยูนิตละ 35-50 ล้านบาท

บริษัทวางโมเดลการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์เจาะตลาดนิชมาร์เก็ต จึงไม่ได้รับผลกระทบจากภาพรวมเศรษฐกิจที่อยู่ในช่วงชะลอตัวมากนัก เช่น การพัฒนาโครงการ วนา เรสซิเดนซ์ ที่จับกลุ่มลูกค้าระดับลักซ์ชัวรี่ เป็นต้น ซึ่งเกิดจากการศึกษาและวิเคราะห์ความต้องการที่อยู่อาศัยของกลุ่มเป้าหมายในทำเลนั้นๆ เพื่อนำมาพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยในรูปแบบบ้านเดี่ยว 3 ชั้นระดับลักซ์ชัวรี่ เป็นรายแรกในทำเลดังกล่าว สามารถรองรับผู้อยู่อาศัยได้ทั้ง 3 เจเนอเรชั่น และได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าที่เป็นกลุ่มผู้บริหารและเจ้าของกิจการซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่ที่ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็วและมีไลฟ์สไตล์เฉพาะตัวที่แตกต่างและมีเอกลักษณ์ของตนเอง

“เราต้องการให้ A5 เป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่แตกต่างจากผู้ประกอบการรายอื่น ไม่ได้พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยจับตลาดแมส แต่เน้นกลุ่มลูกค้าที่เป็นนิชมาร์เก็ต โดยเฉพาะการพัฒนาโครงการระดับลักซ์ชัวรี่ที่มุ่งตอบสนองความต้องการอยู่อาศัยภายใต้แนวคิด Urbanized Living หรือการใช้ชีวิตของคนเมือง และมีแผนพัฒนาโครงการใหม่อย่างต่อเนื่องในอนาคต”

นายศุภโชค กล่าว

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (17 พ.ย. 64)

Tags: , , , , , ,
Back to Top