ชุดทำงานร่วมฯ ยุติจัดการ JFin คอยน์ แอสเซท แนะผู้ยังไม่ได้รับคืนสินทรัพย์อื่นเรียกร้องโดยตรง

คณะทำงานร่วมบริหารจัดการสินทรัพย์ดิจิทัล เจฟิน (Jfin) คงค้าง เปิดเผยผ่านเอกสารชี้แจงว่า จากกรณีที่มีข่าวตามสื่อสาธารณะต่าง ๆ เกี่ยวกับการบริหารจัดการสินทรัพย์ดิจิทัล เจฟิน (Jfin) คงค้างของบริษัท คอยน์ แอสเซท จำกัด หรือศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลคอยแอสเซท หรือ www.coinasset.co.th ที่ไม่เป็นไปตามคำพิพากษาตามยอมนั้น

คณะทำงานร่วมบริหารจัดการสินทรัพย์ดิจิทัล เจฟิน (Jfin) คงค้าง และหน่วยงานที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ขอชี้แจงว่าได้รับทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว และมีความไม่สบายใจอย่างยิ่งที่มีบุคคลหรือกลุ่มบุคคลบิดเบือนข้อกฎหมายและข้อเท็จจริงจนอาจทำให้สาธารณชนสับสนหลงผิด เบื้องต้นคณะทำงานร่วมฯ และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องจากภาคส่วนต่าง ๆ ตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายแล้วพบว่าการบริหารจัดการเป็นไปตามสิทธิและหน้าที่ตามสัญญาที่ปรากฏในคำพิพากษาตามยอม รวมถึงไม่พบความผิดปรกติจากการดำเนินการดังกล่าว

ขอเรียนว่าคณะทำงานร่วมฯ และผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลพันธมิตร ได้ปฏิบัติภารกิจตามที่ได้รับมอบหมายโดยครบถ้วนสมบูรณ์มาเป็นระยะเวลาหนึ่งแล้ว จึงมีความเห็นร่วมกันประกาศยุติบทบาทเกี่ยวกับการบริหารจัดการสินทรัพย์ดิจิทัล เจฟิน (Jfin) คงค้างดังกล่าว

ทั้งนี้ คณะทำงานร่วมฯ มิได้เป็นผู้บริหารจัดการหรือควบคุมเงินสดหรือสินทรัพย์ดิจิทัลอื่น ๆ โดยผู้ที่ยังมีเงินสดหรือสินทรัพย์ดิจิทัล เช่น บิทคอยน์ (Bitcoin) อีเธอเรียม (Ethereum) หรือ เจฟิน (Jfin) ส่วนเกินที่คงค้างอยู่กับศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลดังกล่าว ผู้ทรงสิทธิยังคงสามารถใช้สิทธิเรียกร้องจากบริษัทเจ้าของศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลดังกล่าวได้โดยตรง

อนึ่ง ก่อนหน้านี้ บริษัท คอยน์ แอสเซท จำกัด (CoinAsset) เว็บเทรดคริปโทเคอร์เรนซีสัญชาติไทยเปิดตัวในปี 62 ต้องปิดตัวลง ส่งผลให้ไม่ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และมีคำสั่งให้บริษัทโอนหรือส่งคืนทรัพย์สินให้แก่ลูกค้าหรือตามคำสั่งลูกค้าและขอให้แจ้งผลการดำเนินงานให้ ก.ล.ต. ทราบ

และขณะที่ CoinAsset ปิดตัวลงนั้นได้มีลูกค้าไม่ได้สินทรัพย์คืนเป็นจำนวนมาก ซึ่งสินทรัพย์ที่ลูกค้าไม่ได้รับมอบคืนเยอะที่สุดก็คือ JFin โทเคน ทำให้ผู้เสียหายเดินเรื่องฟ้องร้อง CoinAsset จนมีคดีความเกิดขึ้นในที่สุด

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (29 พ.ย. 64)

Tags: , , , , , ,
Back to Top