ศบค.พบผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่ 2,940 ราย ATK 635 ตาย 30 ราย

ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 2,940 ราย ประกอบด้วย

  • ผู้ติดเชื้อในประเทศจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 2,705 ราย
  • จากการค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกในชุมชน 125 ราย และจากเรือนจำ/ที่ต้องขัง 53 ราย
  • ผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศและเข้าสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ 57 ราย มาจากประเทศสหราชอาณาจักร 10 ราย (Test&Go กทม. 2/Test&Go สุราษฎร์ธานี 1/ Test&Go ชลบุรี 1/ Sandbox ภูเก็ต 2/ Sandbox พังงา 2), สหรัฐอเมริกา 9 ราย (Test&Go กทม. 7), ซาอุดิอาระเบีย 7 ราย (Test&Go กทม. 2/Test&Go นนทบุรี 5), สิงคโปร์ 3 ราย, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 3 ราย (Test&Go กทม./ Test&Go สมุทรปราการ/ Test&Go ภูเก็ต), ไนจีเรีย 2 ราย, เดนมาร์ก 2 ราย (Test&Go กระบี่ 1), ฮังการี 2 ราย (Test&Go กทม.), นอร์เวย์ 2 ราย (Test&Go ชลบุรี/ Test&Go กระบี่), โปแลนด์ 2 ราย (Test&Go กทม./Test&Go สุราษฎร์ธานี), สวีเดน 2 ราย (Test&Go สมุทรปราการ 1) และเมียนมา 2 ราย อียิปต์ 1 ราย, , อิตาลี 1 ราย (Test&Go สงขลา), รัสเซีย 1 ราย (Samui Plus สุราษฎร์ธานี), อินโดนีเซีย 1 ราย, ไอซ์แลนด์ 1 ราย (Test&Go กทม.), แคนาดา 1 ราย (Test&Go ภูเก็ต), ฟินแลนด์ 1 ราย (Test&Go กทม.), ฝรั่งเศส 1 ราย (Test&Go กทม.), สเปน 1 ราย, ออสเตรเลีย 1 ราย, ญี่ปุ่น 1 ราย (Test&Go กทม.)
  • ส่วนผู้ติดเชื้อเข้าข่ายด้วยการตรวจ ATK 635 ราย
  • เสียชีวิต 30 ราย แบ่งเป็นเพศชาย 15 ราย เพศหญิง 15 ราย อายุเฉลี่ย 71 ปี (38-97 ปี) แยกเป็น อายุ 60 ปีขึ้นไป 21 ราย คิดเป็น 70% อายุน้อยกว่า 60 ปี มีโรคเรื้อรัง 6 ราย คิดเป็น 20% และไม่มีประวัติโรคเรื้อรัง 3 ราย คิดเป็น 10%

สำหรับจำนวนผู้ป่วยยืนยันสะสมในประเทศตั้งแต่ต้นปี 63 จนถึงล่าสุดอยู่ที่ 2,202,001 ราย โดยมีผู้ป่วยรักษาหายแล้วเพิ่มขึ้น 2,798 ราย ยอดเสียชีวิตสะสมเพิ่มเป็น 21,501 ราย

จังหวัดที่มีรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่สูงสุด 10 อันดับแรก ได้แก่ กรุงเทพมหานคร 432 ราย, นครศรีธรรมราช 227 ราย, ชลบุรี 182 ราย, สมุทรปราการ 171 ราย, บึงกาฬ 95 ราย, สงขลา 86 ราย, ศรีสะเกษ 79 ราย, เชียงใหม่ 68 ราย, ปัตตานี 65 ราย และสุราษฎร์ธานี 64 ราย

จำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรวันที่ 22 ธ.ค. 64 มีจำนวนทั้งหมด 9,771 ราย เข้ามาในกลุ่มไม่ต้องกักตัว (Test&Go) 8,475 ราย, Sandbox 1,137 ราย, Quarantine 159 ราย

ขณะที่สถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ทั่วโลก ล่าสุดวันนี้มียอดผู้ติดเชื้อสะสมรวม 277,515,297 ราย เสียชีวิต 5,393,140 ราย โดยประเทศที่มียอดผู้ติดเชื้อสูงสุด อันดับแรก คือ ประเทศสหรัฐอเมริกา 52,506,200 ราย อันดับ 2 อินเดีย 34,763,305 ราย อันดับ 3 บราซิล 22,222,928 ราย อันดับ 4 สหราชอาณาจักร 11,647,473 ราย และอันดับ 5 รัสเซีย 10,292,983 ราย ส่วนประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ในอันดับที่ 24

แพทย์และที่ปรึกษาด้านการแพทย์ของสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (IATA) เปิดเผยว่า ผู้โดยสารเครื่องบินมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น 2-3 เท่าที่จะติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนระหว่างเที่ยวบิน ทั้งนี้เที่ยวบินธุรกิจมีแนวโน้มปลอดภัยมากกว่าชั้นประหยัดซึ่งมีคนใช้บริการหนาแน่นกว่า พร้อมแนะนำผู้โดยสรหลีกเกี่ยงการสัมผัสใกล้ชิดกัน หรือสัมผัสพื้นผิวที่มีการจับต้องบ่อย และหากต้องรับประทานอาหารบนเครื่องบินควรสลับเวลากันในแถว เพื่อให้คนอื่นยังสวมหน้ากากอานมัยอยู่ ในขณะที่อีกคนถอดหน้ากากเพื่อรับประทานอาหาร

แม้การโดยสารบนเครื่องบินจะมีความเสี่ยง แต่การอยู่ในสถานที่ที่มีคนหนาแน่นมาก เช่น ศูนยืการค้าต่างๆ ยังมีความเสี่ยงสูงกว่ามาก เนื่องจากเครื่องบินสมัยใหม่จะมีระบบกรองอากาศเกรดเดียวกับในโรงพยาบาล

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (23 ธ.ค. 64)

Tags: , , ,
Back to Top