เงินบาทเปิด 33.54 ทรงตัวจากวานนี้-ธุรกรรมเบาบางช่วงใกล้หยุดยาว ตลาดรอปัจจัยใหม่

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ 33.54 บาท/ดอลลาร์ จากปิดตลาดเย็น วานนี้ที่ระดับ 33.52 บาท/ดอลลาร์ โดยเคลื่อนไหวตามทิศทางตลาดโลกที่ดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก เนื่องจากการเคลื่อน ไหวของเงินทุนระหว่างประเทศแต่มีปริมาณธุรกรรมที่เบาบาง โดยตลาดยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามาเพิ่มเติม

“บาทอ่อนค่าเล็กน้อย ทรงตัวนิ่งๆ ยังไม่มีปัจจัยใหม่ ทิศทางบาทวันนี้น่าจะไซด์เวย์ ตลาดค่อนข้างบาง”

นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงินประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ที่ 33.45 – 33.60 บาท/ดอลลาร์

THAI BAHT FIX 3M (28 ธ.ค.) อยู่ที่ระดับ 0.29862% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 0.38171%

ปัจจัยสำคัญ

– เงินเยนอยู่ที่ระดับ 114.83 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 114.77 เยน/ดอลลาร์

– เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1308 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.1327 ดอลลาร์/ยูโร

– อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท. อยู่ที่ระดับ 33.546 บาท/ดอลลาร์

– รมว.คลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังได้เสนอหลักเกณฑ์การเปิดลงทะเบียนโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่ เพื่อรอให้ ครม. พิจารณาไปแล้ว แต่ทางสำนักงานเลขาคณะรัฐมนตรี ยังไม่ได้นำบรรจุในวาระ ครม. ในวันที่ 28 ธ.ค.64 ส่วนจะบรรจุ ในวาระ ครม. เมื่อใดนั้น ยังไม่ทราบต้องขึ้นอยู่กับสำนักงานเลขา ครม. ซึ่งในส่วนของกระทรวงการคลัง ได้จัดทำรายละเอียดเสร็จไป หมดแล้ว

– ที่ประชุม คณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบรายงานการทบทวนสัดส่วนที่ใช้เป็นกรอบในการบริหารหนี้สาธารณะ ตามมาตรา 50 แห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐพ.ศ.2561 โดยเพิ่มสัดส่วนหนี้สาธารณะต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) จากกรอบเดิมไม่เกินร้อยละ 60 เป็น ไม่เกินร้อยละ 70

– สธ.แนะรับมือโควิดอาจกลับมาระบาดหนักหลังปีใหม่ ให้ตรวจ ‘เอทีเค’ ก่อนเข้าสถานที่ทำงาน ย้ำ ‘เวิร์กฟรอมโฮม’ ต่อกรมควบคุมโรคชี้แม้เชื้อ ‘เดลตา’ อยู่ในช่วงขาลงแล้ว แต่ยังต้องเฝ้าระวัง ‘โอมิครอน’ แต่ก็เชื่อไม่น่ารุนแรง

– ข้อมูลเศรษฐกิจของไทยวันนี้ สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) แถลงดัชนีอุตสาหกรรม, กระทรวงการคลัง รายงานภาวะเศรษฐกิจประจำเดือน พ.ย.2564

– ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาริชมอนด์ เปิดเผยว่า ดัชนีภาคการผลิตดีดตัวขึ้นสู่ระดับ 16 ในเดือนธ.ค. จากระดับ 12 ในเดือนพ.ย. ซึ่งดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าดัชนีภาคการผลิตจะทรงตัวที่ระดับ 12 ในเดือนธ.ค.

– ผลสำรวจของเอสแอนด์พี คอร์โลจิก เคส ชิลเลอร์ บ่งชี้ว่า ดัชนีราคาบ้านทั่วประเทศในสหรัฐพุ่งขึ้น 19.1% ในเดือนต. ค. เมื่อเทียบรายปี โดยราคาบ้านยังคงได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์ของผู้ซื้อบ้าน และสต็อกบ้านที่ตึงตัว รวมทั้งอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนองที่ ระดับต่ำ

– ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (28 ธ.ค.) ขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ รวมทั้งการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจปรับขึ้นดอกเบี้ยอย่างเร็วที่สุดในเดือนมี. ค.ปีหน้า

– สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (28 ธ.ค.) โดยได้ปัจจัยบวกจากการร่วงลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตร สหรัฐ และจากการที่นักลงทุนเริ่มกลับเข้าซื้อทองคำในช่วงก่อนเทศกาลปีใหม่

– นักลงทุนยังคงจับตาสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน โดยล่าสุดสถาบันสาธารณสุขและสิ่ง แวดล้อมแห่งชาติของเนเธอร์แลนด์ (RIVM) เปิดเผยว่า ขณะนี้ไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนได้กลายเป็นสายพันธุ์หลักในเนเธอร์ แลนด์แล้ว โดยคิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 50% ของจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทั้งหมดในประเทศ โดยสามารถแทนที่สายพันธุ์เดลตา

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (29 ธ.ค. 64)

Tags: ,
Back to Top