หุ้นไทยปิดเช้าพุ่ง 14.27 จุด แบงก์-พลังงานขึ้นนำตอบรับ Sentiment บวกจากตปท.

SET ช่วงเช้าปิดที่ระดับ 1,497.25 จุด เพิ่มขึ้น 14.27 จุด (+0.96%) มูลค่าการซื้อขายราว 43,513 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯเผยตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับขึ้น ได้ Sentiment ดีจากตลาดต่างประเทศ โดยตลาดเอเชีย-ตลาดสหรัฐต่างบวกกัน

ขณะที่บ้านเราได้รับแรงหนุนจากกลุ่มแบงก์ที่ขึ้นนำตลาด จากกระแส Bond Yield ระยะยาวทั้งในสหรัฐฯ-ไทยปรับตัวสูงขึ้น-เล็งเงินเฟ้อสูงขึ้นด้วยอันเป็นผลจากหลายธนาคารกลางอัดฉีดเม็ดเงินเข้าระบบในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้มีลุ้นขึ้นดอกเบี้ยในอนาคต ซึ่งจะเป็นผลดีต่อกลุ่มแบงก์ นอกจากนี้ราคาน้ำมันขึ้นก็หนุนกลุ่มพลังงาน ส่วนบาทอ่อนค่าเป็นลบต่อกลุ่มโรงไฟฟ้า แต่เป็นบวกต่อกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ พร้อมมองเม็ดเงินยังไหลเข้าเอเชีย เห็นได้จากราคาทองปรับลงค่อนข้างแรง บ่ายนี้ตลาดฯยังคงแกว่งบวกได้ โดยมีแนวรับ 1,480 แนวต้าน 1,495-1,500 จุด

  • ตลาดหลักทรัพย์ฯปิดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,497.25 จุด เพิ่มขึ้น 14.27 จุด (+0.96%) มูลค่าการซื้อขายราว 43,513 ล้านบาท
  • การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนบวกตลอดช่วงเช้า โดยดัชนีทำระดับสูงสุดที่ 1,497.79 จุด และทำระดับต่ำสุดที่ 1,488.73 จุด

นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้รีบาวด์ ได้ Sentiment ดีจากตลาดต่างประเทศ โดยตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวแดนบวก เช่นเดียวกับตลาดสหรัฐฯวานนี้บวกขึ้นมาได้

ตลาดบ้านเราได้แรงหนุนจากหุ้นในกลุ่มแบงก์ขึ้นนำ จากกระแสอัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Bond yield) ระยะยาวทั้งของสหรัฐและไทยปรับตัวสูงขึ้น และคาดการณ์เงินเฟ้อจะสูงขึ้นด้วย อันเป็นผลจากหลายธนาคารกลางได้อัดฉีดเม็ดเงินเข้าระบบในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้มีโอกาสปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอนาคต ซึ่งก็เป็นผลดีต่อกลุ่มแบงก์

นอกจากนี้ ราคาน้ำมันก็ได้ปรับตัวขึ้นด้วยเป็นแรงหนุนหุ้นกลุ่มพลังงาน ส่วนเงินบาทอ่อนค่า แม้จะเป็นลบต่อกลุ่มโรงไฟฟ้า แต่ก็เป็นบวกต่อกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ทำให้เช้านี้บวกได้ดี ขณะที่เม็ดเงินยังไหลเข้าเอเชียเห็นได้จากราคาทองคำปรับตัวลงค่อนข้างแรง

คืนนี้ยังให้ติดตามตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ และสัปดาห์หน้าติดตามเงินเฟ้อของหลายประเทศที่จะทยอยประกาศออกมา หากเริ่มปรับขึ้นจะทำให้กลุ่มแบงก์ได้รับอานิสงส์บวก

แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ นายวีระวัฒน์ กล่าวว่า ตลาดฯคงจะยังเคลื่อนไหวในแดนบวกได้ พร้อมให้แนวรับ 1,480 จุด ส่วนแนวต้าน 1,495-1,500 จุด

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่

  • BBL มูลค่าการซื้อขาย 3,275.75 ล้านบาท ปิดที่ 122.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท
  • PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,800.59 ล้านบาท ปิดที่ 39.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท
  • KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,630.58 ล้านบาท ปิดที่ 137.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท
  • AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,391.01 ล้านบาท ปิดที่ 63.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.75 บาท
  • SCB มูลค่าการซื้อขาย 1,242.06 ล้านบาท ปิดที่ 98.75 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (05 ก.พ. 64)

Tags: , , , ,
Back to Top