ธนารักษ์ ดีเดย์เปิดประมูลขายทรัพย์สินผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์แบบ Real Time มี.ค.นี้

นายยุทธนา หยิมการุณ อธิบดีกรมธนารักษ์ เปิดเผยว่า จากการที่กรมธนารักษ์ ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในการพัฒนาระบบประมูลขายทรัพย์สินผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ กับธนาคารกรุงไทย (KTB) ซึ่งกรมธนารักษ์ได้รับมอบทรัพย์สินมาจากสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีทั้งที่ดินเปล่า ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง สิ่งปลูกสร้างบนที่ดินอื่น ห้องชุด และอาคารชุด โดยเป็นหน่วยงานแรกที่มีการพัฒนาระบบประมูลขายทรัพย์สินผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์แบบ Real Time

ทั้งนี้ ระบบประมูลขายทรัพย์สินผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ จะทำให้ประมูลขายทรัพย์สินเป็นไปตามหลักของการแข่งขันโปร่งใส ตรวจสอบได้ และเพื่อให้การบริการจัดการทรัพย์สินที่ได้มาจากการยึดทรัพย์เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และเกิดประโยชน์สูงสุดต่อรัฐ คาดว่าในรอบแรกจะเปิดประมูลที่ราชพัสดุในช่วงเดือนมีนาคม 2564 เป็นเวลา 7 วัน จำนวน 156 รายการ โดยให้ผู้ที่สนใจเข้าร่วมประมูลได้ตลอด 24 ชั่วโมงและเข้าร่วมประมูลได้ที่ https://auction.treasury.go.th ลงทะเบียนสมัครสมาชิกเพื่อเข้าดูรายการทรัพย์สินและวางเงินประกันการประมูลเริ่มต้นที่ 25,000 บาท สูงสุดไม่เกิน 500,000 บาท ได้ในช่วง 10 วันก่อนเปิดประมูล โดยสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารของกรมธนารักษ์ที่ www.treasury.go.th และสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Call Center : 0-2059-4999

นายยุทธนา กล่าวต่อว่า สำหรับการนำที่ราชพัสดุที่อยู่ในความครอบครอง มาดำเนินการจัดสวัสดิการในลักษณะอาคารพักอาศัยรวม (คอนโด) เพื่อให้ข้าราชการได้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง พร้อมขยายสิทธิการจองเข้าร่วมโครงการสวัสดิการที่พักอาศัยของข้าราชการในที่ราชพัสดุให้ข้าราชการ 14 ประเภท และข้าราชการบำนาญ โดยในปี 2564 กรมธนารักษ์เตรียมเปิดให้จองสิทธิเข้าร่วมโครงการสวัสดิการที่พักอาศัยของข้าราชการในที่ราชพัสดุ จำนวน 12 แปลง ซึ่งตั้งอยู่ในกรุงเทพมหานคร 1 แปลง ลักษณะเป็นอาคารพักอาศัยรวม สูง 28 ชั้น จำนวน 650 ห้อง ขนาดพื้นที่ห้องพัก ประมาณ 34 ตารางเมตรต่อห้อง กำหนดราคา3 ระดับราคาตามความสูงของอาคาร ดังนี้

  • ชั้น 4-6 (3 ชั้น) 78 ห้อง ราคา 999,999 บาท/ห้อง
  • ชั้น 7-15 (9 ชั้น) 234 ห้อง ราคา 1,250,000 บาท/ห้อง
  • ชั้น 16-28 (13 ชั้น) 338 ห้อง ราคา 1,499,999 บาท/ห้อง

สำหรับในต่างจังหวัด จำนวน 11 แปลง ในพื้นที่เชียงราย นครนายก อุบลราชธานี อุดรธานี สุราษฎร์ธานี ยะลา ปัตตานี ประจวบคีรีขันธ์ นนทบุรี นครราชสีมา และจันทบุรี โดยพัฒนาเป็นอาคารพักอาศัยรวม สูง 7 ชั้น จำนวน 76 ห้อง ขนาดพื้นที่ห้องพัก ประมาณ 40 ตารางเมตรต่อห้อง ราคาห้องละ 999,999 บาท

นายยุทธนา กล่าวเพิ่มเติมว่า สามารถจองสิทธิเข้าร่วมโครงการฯ ได้ รวมทั้งสามารถจองข้ามเขตสถานที่ทำงานหรือภูมิลำเนาได้ อย่างไรก็ตาม ในการพิจารณาคัดเลือกจะพิจารณาผู้ที่มีสถานที่ทำงานหรือมีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่โครงการฯ ก่อน และลำดับถัดไปจะพิจารณาคัดเลือกผู้ที่ไม่มีสถานที่ทำงานหรือมีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่โครงการฯ โดยผู้จองสามารถเลือกจองได้เพียง 1 ห้องเท่านั้น และต้องไม่เป็นผู้ที่ได้รับสิทธิในโครงการบูรณาการสวัสดิการที่พักอาศัยกับสถานที่ทำงานและศูนย์บริการของข้าราชการพลเรือนสามัญ

สำหรับสิทธิประโยชน์ที่จะได้รับในโครงการฯ นี้ เช่น ได้รับกรรมสิทธิห้องพักอาศัย ได้รับสิทธิการเช่าที่ดินราชพัสดุที่เป็นที่ตั้งโครงการฯ เป็นระยะเวลา 30 ปี กรมธนารักษ์ผ่อนปรับอัตราค่าเช่า 25% จากอัตราปกติที่กำหนดไว้ตามกฎหมายว่าด้วยที่ราชพัสดุและยกเว้นค่าธรรมเนียมการต่ออายุสัญญาเช่า สามารถนำสิทธิการเข้าร่วมโครงการไปเบิกตามสิทธิที่จะเบิกได้ตามระเบียบที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งการนำสิทธิการเช่าไปผูกพันในการกู้เงินกับธนาคารอาคารสงเคราะห์ได้ตามระเบียบ

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (4 มี.ค. 64)

Tags: , , , , , , , , , ,
Back to Top