เงินบาทเปิด 30.50/54 ต่อดอลล์ แนวโน้มอ่อนค่าหลังดอลล์แข็งจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐออกมาดี

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 30.50/54 บาท/ดอลลาร์ ใกล้เคียงจากเย็นวันศุกร์ที่ปิดตลาดที่ระดับ 30.50 บาท/ดอลลาร์

เงินบาทวันนี้ยังมีแนวโน้มอ่อนค่าเช่นเดียวกับสกุลเงินอื่นในภูมิภาคเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากดอลลาร์สหรัฐแข็งค่า เพราะตัวเลขเศรษฐกิจ โดยเฉพาะตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร (Non Farm Payroll) เดือนก.พ.ของสหรัฐ ที่ออกมาดีกว่าคาด ขณะเดียวกัน อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ อายุ 10 ปี ขึ้นไปแตะระดับสูงสุดในรอบ 1 ปี

“บาทตอนนี้ยังอ่อนค่าเหมือนสกุลอื่นๆ ในภูมิภาค เพราะดอลลาร์แข็งค่า การที่ตัวเลข Non Farm ของสหรัฐฯ ออกมาดีกว่าที่ตลาดคาดไว้มาก”

นักบริหารเงินระบุ

ช่วงนี้ ต้องติดตามทิศทางตลาดพันธบัตรของสหรัฐ ตลอดจนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ความคืบหน้าเรื่องการกระจายวัคซีน เป็นต้น

นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 30.45- 30.65 บาท/ดอลลาร์

THAI BAHT FIX 3M (5 มี.ค.) อยู่ที่ระดับ 0.32077% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 0.34528%

ปัจจัยสำคัญ

  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 108.30/50 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 108.48 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1915/1939 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 1.1923 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 30.451 บาท/ดอลลาร์
  • ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ภาคเอกชนต้องการให้รัฐบาลเร่งประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบของการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบศ.) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เป็นประธานภายในเดือนนี้ และให้บรรจุวาระที่นำเสนอโดยคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน ประกอบด้วย ส.อ.ท. หอการค้าไทย และสมาคมธนาคารไทยโดยเฉพาะ เนื่องจากที่ผ่านมา เป็นลักษณะให้ภาคเอกชนเข้าร่วม ไม่มีวาระเฉพาะของภาคเอกชน ที่ต้องการนำเสนอรัฐบาลโดยตรง
  • ทางการจีนรายงานว่า ยอดการส่งออกในช่วงเดือนม.ค.-ก.พ.64 ทะยานขึ้นถึง 60.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้านั้น โดยพุ่งขึ้นมากกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ซึ่งคาดไว้ว่าจะขยายตัว 38.9% หลังจากที่เพิ่มขึ้น 18.1% ในเดือนธ.ค.63
  • กระทรวงแรงงานสหรัฐเมื่อวันศุกร์ว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 379,000 ตำแหน่งในเดือนก.พ. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าอาจจะเพิ่มขึ้น 210,000 ตำแหน่ง
  • วุฒิสภาสหรัฐได้ลงคะแนนโหวตอนุมัติกฎหมายกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ที่เสนอโดยประธานาธิบดีโจ ไบเดนแล้ว ด้วยคะแนนโหวตสนับสนุน 50 เสียง ขณะที่โหวตคัดค้าน 49 เสียง หลังจากที่ได้เจรจากันมาอย่างยาวนานเพราะฝั่งพรรครีพับลิกันได้พยายามผลักดันให้มีการแก้กฎหมายบางอย่าง
  • ทั้งนี้ วุฒิสภาสหรัฐจะส่งกลับร่างกฏหมายที่อนุมัติแล้วให้สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐอนุมัติอีกครั้งในสัปดาห์หน้า และหลังจากนั้นก็จะส่งให้ปธน.ไบเดนลงนามบังคับใช้เป็นกฎหมายต่อไปก่อนวันที่ 14 มี.ค.นี้ ซึ่งเป็นวันที่มาตรการช่วยเหลือผู้ว่างงานในปัจจุบันจะหมดอายุลง
  • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปี พุ่งแตะระดับสูงสุดใหม่ในรอบ 1 ปีที่ระดับ 1.626% หลังจากการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้นสูงกว่าที่บรรดานักวิเคราะห์คาดไว้
  • รมว.คลังสหรัฐเปิดเผยในวันศุกร์ (5 มี.ค.) ว่า อัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาวที่เพิ่มขึ้นเป็นสัญญาณที่บ่งชี้ว่า นักลงทุนในตลาดกำลังคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจจะฟื้นตัวแข็งแกร่งขึ้น ไม่ใช่วิตกเกี่ยวกับเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น
  • ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่สำคัญในสัปดาห์นี้ ได้แก่ อัตราเงินเฟ้อเดือน ก.พ.64 ที่วัดจากดัชนีราคาผู้บริโภค ดัชนีราคาผู้ผลิต รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และข้อมูลเบื้องต้นของดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน มี.ค.
  • ตลาดยังรอติดตามผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 4/63 ของญี่ปุ่นและยูโรโซน รวมถึงข้อมูลเศรษฐกิจเดือน ก.พ. ของจีน ทั้งดัชนีราคาผู้บริโภค ดัชนีราคาผู้ผลิต และยอดปล่อยกู้สกุลเงินหยวน

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (8 มี.ค. 64)

Tags: , ,
Back to Top