เปิดตัวครั้งยิ่งใหญ่กับงานมหกรรมแสดงรถยนต์ของเมืองไทย “Bangkok International Motor Show 2021” (ครั้งที่ 42) ที่มีกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 24 มี.ค.-4 เม.ย.64 ณ อิมแพค เมืองทองธานี นับเป็นงานแสดงรถยนต์ “งานแรกของโลก” ในรอบ 2 ปีนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 ล่าสุดค่ายรถยนต์จำนวนมากเข้าร่วมพร้อมเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ พร้อมอัดโปรโมชั่นถล่มราคาหวังกระตุ้นกำลังซื้อปลุกสัญญาณแรกให้ตลาดรถยนต์ในประเทศกลับมาคึกคักกันอีกครั้ง
นายจาตุรนต์ โกมลมิศร์ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ บมจ.กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล (GPI) เปิดเผยกับ “อินโฟเควสท์” ว่า ในฐานะผู้จัดงาน “Bangkok International Motor Show 2021” มีความพร้อมเกิน 100% แม้ว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ในประเทศจะยังไม่คลี่คลายอย่างชัดเจน แต่ด้วยสถานการณ์ที่ผ่อนคลายมากขึ้น และจากประสบการณ์ของผู้จัดงานและหน่วยงานภาครัฐที่ผ่านการจัดงานท่ามกลางสถานการณ์โควิด-19 ไปแล้วเมื่อปีที่ผ่านมา ทำให้มีความมั่นใจอย่างยิ่งเรื่องความปลอดภัยของผู้เข้ามาร่วมชมงานในครั้งนี้
อย่างไรก็ตาม ในมิติของวงการอุตสาหกรรมรถยนต์เมืองไทย เชื่อว่าการจัดมหกรรมงานแสดงรถยนต์ช่วงต้นปีนี้จะเป็นสัญญาณแรกให้ตลาดรถยนต์เมืองไทยกลับมาคึกคักมากขึ้น สะท้อนจากการเข้ามาร่วมงานของค่ายรถยนต์ต่างชาติเตรียมเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ขณะเดียวกันจากการแข่งขันเรื่องโปรโมชั่นดึงดูดลูกค้านับเป็นโอกาสที่ดีของผู้ซื้อที่สามารถต่อรองเรื่องราคากับผู้ขายได้ภายในงานนี้
ทั้งนี้ แม้ว่าในปี 63 จะมีผู้เข้ามาร่วมชมงานราว 1.2-1.3 ล้านคน ลดลงจากภาวะปกติที่มีผู้เข้าร่วมชมงานประมาณ 1.7-1.8 ล้านคนเป็นอันดับหนึ่งที่มีผู้เข้าร่วมงานมากที่สุดในอาเซียน แต่ในฐานะผู้จัดงานก็คาดหวังว่างานมอเตอร์โชว์ในปีนี้จะมีผู้เข้าร่วมชมงานมากขึ้น เพราะจะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยผลักดันยอดขายรถยนต์ในประเทศสามารถเติบโตได้ตามเป้า 7-8% เมื่อเทียบกับยอดขายรถยนต์ในปี 63 ที่ทำได้ราว 7 แสนคัน
อย่างไรก็ตาม หากสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 เริ่มดีขึ้นรัฐบาลกลับมามีนโยบายให้สามารถจัดงานอีเวนต์ใหญ่ได้ตามปกติ ก็มีความเป็นไปได้ว่ายอดขายรถยนต์ในประเทศจนถึงสิ้นปี 64 มีโอกาสแตะ 8-9 แสนคันได้
“งานมอเตอร์โชว์เปรียบได้ว่าเป็นงานประจำปีของมหกรรมรถยนต์ในไทยเราจัดมาแล้วตลอด 42 ปี เชื่อว่าทุกคนเฝ้ารอคอย และจากการพูดคุยกับค่ายรถยนต์ต่างๆ ก็มีความมั่นใจว่ายอดขายจะดีกว่าปีที่แล้วแน่นอน หรืออาจะกลับไปใกล้เคียงกับอดีต แต่หากประเทศไทยสามารถเปิดงานแสดงรถยนต์ได้เหมือนกับช่วงก่อนเกิดโควิด-19 มีความเป็นไปได้ที่ยอดขายรถยนต์ปีนี้จะเติบโตได้ตามเป้าหมาย เพราะเป็นส่วนช่วยกระตุ้นให้เกิดการซื้อรถยนต์ในประเทศมากขึ้น”
นายจาตุรนต์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม จากสถานการณ์โควิด-19 และการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองของประเทศเมียนมา บริษัทมีแผนชะลอการจัดงาน Yangon International Motor Show ในประเทศเมียนมาออกไปก่อน แต่จะหันมาเน้นการจัดอีเวนต์ในประเทศแทน ซึ่งต้องติดตามนโยบายการเปิดเมืองของภาครัฐช่วงหลังเทศกาลสงกรานต์เดือน เม.ย.ว่าจะมีแผนกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศอย่างไร ซึ่งหากเป็นไปตามแผนบริษัทมุ่งขยายการจัดอีเวนต์มอเตอร์โชว์ตามพื้นที่หัวเมืองใหญ่ในต่างจังหวัด เช่น โคราช ,เชียงใหม่ ,ขอนแก่น และนครศรีธรรมราช เป็นต้น
“แม้ว่าพฤติกรรมผู้บริโภคอาจจะเปลี่ยนแปลงหลังจากเกิดโควิด แต่ด้วยจุดแข็งของงานอีเวนต์ใหญ่อย่างมอเตอร์โชว์ที่เป็นมหกรรมแสดงรถยนต์ เรามีความมั่นใจว่าจะยังได้รับความนิยมของคนไทยเช่นเดิม เพราะจากการทำผลสำรวจผู้ซื้อรถยนต์และผู้เข้าชมงานที่มีอายุน้อยเฉลี่ยอายุ 20-30 ปีก็ยังไม่พบว่ามีการซื้อรถยนต์จบในมือถือได้เลย เพราะสินค้ารถยนต์นั้นเป็นสิ่งที่อำนวยความสะดวกสบายให้กับคนครอบครัวและมีราคาสูง ดังนั้นการซื้อรถยนต์ยังจำเป็นที่ต้องการสัมผัสและทดลองขับก่อนตัดสินใจซื้อ ดังนั้นการจัดงานแสดงรถยนต์ยังมีความจำเป็นกับผู้บริโภคคนไทย ผมคิดว่าอย่างน้อยอีก 5 ปีข้างหน้าก็คิดว่าไม่น่าเป็นห่วง”
นายจาตุรนต์ กล่าว
นายจาตุรนต์ กล่าวต่อว่า สำหรับแผนระยะยาว 3-4 ปีข้างหน้า บริษัทยังคงมีเป้าหมายนำโมเดลและมาตรฐานระดับสากลของการจัดงานมอเตอร์โชว์เข้าไปจัดงานสร้างการรับรู้ให้กับต่างชาติอีกอย่างน้อย 2-3 ประเทศในอาเซียน แต่ต้องติดตามการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างในมิติต่างๆของประเทศนั้นหลังเกิดการแพร่ระบาดโควิด-19 ว่าจะเปลี่ยนแปลงไปมากน้อยอย่างไร
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (22 มี.ค. 64)
Tags: GPI, กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล, งานแสดงสินค้า, จาตุรนต์ โกมลมิศร์, มอเตอร์โชว์, รถยนต์