สธ.เดินหน้ากระจายวัคซีนโควิดแม้มีผู้เสียชีวิตหลังแพทย์เชื่อวัคซีนไม่ใช่สาเหตุ

นพ.โสภณ เมฆธน ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข ประธานคณะอนุกรรมการอำนวยการบริหารจัดการการให้วัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ยืนยันว่า ทางกระทรวงสาธารณสุขยังมีความมั่นใจในวัคซีน และยังคงมีความพร้อมในการเดินหน้ากระจายวัคซีน แม้พบผู้เสียชีวิตหลังได้รับวัคซีน โดยทางคณะแพทย์เชื่อว่า วัคซีนไม่ใช่สาเหตุของการเสียชีวิต

ขณะนี้ได้มีการฉีดวัคซีนไปแล้วราว 1.2 แสนโดส เกิดผลข้างเคียงรุนแรง 2 ราย หรือคิดเป็น 0.001% ซึ่งกระทรวงสาธารณสุข จะเดินหน้าฉีดวัคซีนให้กับประชาชนต่อไป แต่ประชาชนต้องทำความเข้าใจ เพราะอาจเจอเหตุการณ์ผิดปกติขึ้นอีกได้ ซึ่งตนมั่นใจในระบบวัคซีนที่มีอยู่ และระบบการช่วยเหลือ หากเกิดอาการไม่พึงประสงค์

สำหรับกรณีชายเสียชีวิตจากอาการเส้นเลือดแดงใหญ่โป่งพองแตกในช่องท้องเสียชีวิต หลังฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 นั้น นพ.โสภณ กล่าวว่า ไม่น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องจากการได้รับวัคซีน แต่เป็นเหตุบังเอิญที่เกิดขึ้น เหมือนกรณีมีรายงานการเสียชีวิตเนื่องจากลิ่มเลือดอุดตันในต่างประเทศ จนต้องชะลอการฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าออกไปเพื่อรอดูความชัดเจน

นพ.ทวี โชติพิทยสุนนท์ ผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ เปิดเผยว่า กรณีดังกล่าวเป็นชายที่มีโรคประจำตัวคือ เส้นเลือดแดงใหญ่โป่งพอง โดยช่วงปลายเดือน ม.ค.64 ได้เข้ารับการผ่าตัดและนอนพักฟื้นในโรงพยาบาลนาน 40 วัน หลังจากนั้นได้กลับไปพักฟื้นต่อที่บ้าน และเนื่องจากเป็นกลุ่มเสี่ยง จึงเข้ารับการฉีดวัคซีนเมื่อวันที่ 3 มี.ค.64 ไม่มีอาการผิดปกติ

หลังจากได้รับวัคซีนแล้วไม่สามารถติดต่อได้ จากนั้น ในวันที่ 8-9 มี.ค. มีอาการแน่นหน้าอก วิงเวียนศรีษะ เป็นลม เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล หลังจากนั้นมีอาการทรุดลงและเสียชีวิตในวันที่ 13 มี.ค. ซึ่งแพทย์ที่ทำการรักษาระบุสาเหตุจากหลอดเลือดแดงใหญ่แตกหรือรั่ว สรุปได้ว่าไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับการฉีดวัคซีน

“ปัญหาคือ ปกติโรคนี้ไม่แสดงอาการอะไรเลย เหมือนระเบิดเวลาซ่อนอยู่ในตัวเอง หลายรายตรวจเจอได้โดยบังเอิญ เพราะมีอาการเจ็บหน้าอก เจ็บหลัง ปวดท้องเฉียบพลัน” นพ.ทวี กล่าว

นพ.ทวี กล่าวว่า อาการข้างเคียงและอาการไม่พึงประสงค์หลังจากฉีดวัคซีน หากมีความรุนแรง เช่น เหนื่อย แน่นหน้าอก ปวดท้อง อาเจียน ผื่นขึ้นตามตัว อาการชัก ซึ่งส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นหลังได้รับวัคซีนแล้ว 15 นาที สำหรับวัคซีนซิโนแวก พบผลข้างเคียงไม่รุนแรง 20-30% แต่พบผลข้างเคียงรุนแรงเพียง 0.7% จึงยืนยันได้ว่าวัคซีนมีความปลอดภัย

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (26 มี.ค. 64)

Tags: , , , , ,
Back to Top