ซิดนีย์สั่งปชช.สวมหน้ากากอนามัย-จำกัดการรวมตัว หลังพบผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่

ทางการซิดนีย์ประกาศมาตรการจำกัดการรวมตัวของประชาชน หลังตรวจพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 2 รายในชุมชน

นางแกลดิส เบรีจิเกลียน ผู้ว่าการรัฐนิวเซาท์เวลส์แถลงต่อสื่อมวลชนว่า ตั้งแต่เวลา 17.00 น.ของวันนี้ (6 พ.ค.) ทางการจะอนุญาตให้ประชาชนรวมตัวกันสูงสุดภายในบ้านได้ไม่เกิน 20 คน และไม่อนุญาตให้มีการร้องเพลงและเต้นรำในสถานที่ในร่ม ยกเว้นในงานแต่งงาน

นอกจากนี้ ทางการยังสั่งให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัยในระบบขนส่งสาธารณะ และในที่สาธารณะในร่มทุกแห่ง เช่น ร้านค้าปลีก, โรงละคร, โรงพยาบาล และสถานดูแลผู้สูงอายุ โดยมาตรการดังกล่าวจะมีผลอย่างน้อยที่สุดไปจนถึงสิ้นสุดสัปดาห์นี้

นางเบรีจิเกลียนระบุว่า “มาตรการเหล่านี้เหมาะสมตามความเสี่ยง และจะช่วยลดจำนวนผู้ติดเชื้อภายในชุมชนต่อไป”

รายงานระบุว่า ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นหลังจากเจ้าหน้าที่สาธารณสุขของออสเตรเลียรายงานการพบผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่ในท้องถิ่น และไม่สามารถระบุได้ว่าติดเชื้อมาจากที่ใด และภรรยาของผู้ติดเชื้อยังได้รับการวินิจฉัยว่าติดเชื้อโควิดด้วยเช่นกัน

ทั้งนี้ ออสเตรเลียมียอดรวมผู้ติดเชื้อโควิด-19 น้อยกว่า 30,000 รายนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดในประเทศ หลังจากที่ปิดพรมแดนสำหรับผู้ที่ไม่ใช่พลเมืองออสเตรเลียตั้งแต่เดือนมี.ค.ปีที่ผ่านมา แต่ก็ยังมีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดในชุมชน เนื่องมาจากระบบกักตัวที่หละหลวมของโรงแรมสำหรับพลเมืองที่เดินทางกลับเข้าประเทศ

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (06 พ.ค. 64)

Tags: , , , , , ,
Back to Top