หุ้นไทยปิดร่วง 10.75 จุด รับจิตวิทยาลบจากนโยบายรัฐแก้ปัญหาหนี้ประชาชน

SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,622.31 จุด ลดลง 10.75 จุด (-0.66%) มูลค่าการซื้อขาย 90,036.99 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯเผยตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่ง Sideway Down ขาดปัจจัยบวกหนุนช่วงรอจับตานโยบายการเงินเฟดเช่นเดียวกับตลาดต่างประเทศ โดยตลาดภูมิภาค-ตลาดยุโรปต่างแกว่งไซด์เวย์ทั้งบวก-ลบ ส่วนบ้านเรายังได้รับปัจจัยทางจิตวิทยาลบจากความไม่แน่นอนนโยบายแก้หนี้ประชาชนกดดันกลุ่มแบงก์, Consumer Finance และบัตรเครดิต พรุ่งนี้คาดตลาดฯแกว่งไซด์เวย์หากยังไมมีสัญญาณจากเฟดออกมา พร้อมให้แนวรับ 1,600 จุด แนวต้าน 1,635-1,642 จุด

  • ตลาดหลักทรัพย์ ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,622.31 จุด ลดลง 10.75 จุด (-0.66%) มูลค่าการซื้อขาย 90,036.99 ล้านบาท
  • การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนลบเป็นส่วนใหญ่ โดยดัชนีทำระดับสูงสุด 1,636.10 จุด และระดับต่ำสุด 1,618.60 จุด
  • ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 420 หลักทรัพย์ ลดลง 1,292 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 392 หลักทรัพย์

นายกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน บล.โนมูระ พัฒนสิน กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่ง Sideway Down ขาดปัจจัยบวกหนุน ขณะที่ตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียวันนี้แกว่งไซด์เวย์ทั้งแดนบวก-ลบราว 0.5% เช่นเดียวกับตลาดยุโรปเทรดบ่ายนี้ก็แกว่งไซด์เวย์ -0.2% ถึง +0.4% ต่างรอติดตามนโยบายการเงินจากการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)

ส่วนบ้านเรายังได้รับปัจจัยด้านจิตวิทยาเชิงลบจากความไม่แน่นอนนโยบายการภาครัฐที่จะแก้ปัญหาหนี้ของประชาชน ซึ่งส่งผลกระทบต่อสถาบันการเงินและกลุ่มไฟแนนซ์ หลังจากการแก้ปัญหาหนี้ภาคครัวเรือนยังไม่เป็นไปตามเป้าหมายมากนัก อาจทำให้ธนาคารแห่งประเทศไทยต้องเข้ามาดูแลเรื่องอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อ ถือเป็นความเสี่ยงของกลุ่มบัตรเครดิตและไฟแนนซ์ วันนี้จึงเห็นหุ้นในกลุ่มแบงก์, Consumer Finance และบัตรเครดิต ได้รับแรงกดดัน

อย่างไรก็ดี ปัจจัยในประเทศยังต้องติดตามการบริหารจัดการเรื่องวัคซีนโควิด-19 ว่าจะสามารถกลับมาเร่งฉีดได้อีกเมื่อใด หลังเลื่อนฉีดอยู่ในขณะนี้ และยังต้องติดตามจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายวันต่อไปด้วย เนื่องจากจำนวนยังอยู่ในระดับสูงราว 2,500 รายต่อวันบวก/ลบ

แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (16 มิ.ย.) นายกรภัทร กล่าวว่า ตลาดฯคงจะยังแกว่งไซด์เวย์ หากยังไม่มีสัญญาณจากเฟดออกมา พร้อมให้แนวรับ 1,600 จุด ส่วนแนวต้าน 1,635-1,642 จุด

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่

KBANK มูลค่าการซื้อขาย 5,427.34 ล้านบาท ปิดที่ 125.00 บาท ลดลง 5.00 บาท

GUNKUL มูลค่าการซื้อขาย 3,561.78 ล้านบาท ปิดที่ 4.24 บาท ลดลง 0.18 บาท

PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,280.68. ล้านบาท ปิดที่ 40.75 บาท ลดลง 0.75 บาท

TASCO มูลค่าการซื้อขาย 2,217.28. ล้านบาท ปิดที่ 20.80 บาท เพิ่มขึ้น 0.70 บาท

PTTGC มูลค่าการซื้อขาย 2,076.09 ล้านบาท ปิดที่ 59.25 บาท ลดลง 1.25 บาท

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (15 มิ.ย. 64)

Tags: , ,
Back to Top