เมืองเมลเบิร์นของออสเตรเลียเตรียมอนุญาตให้ประชากรกว่า 5 ล้านคนเดินทางได้ในระยะทางเกินกว่า 25 กิโลเมตรจากที่พำนัก และอนุญาตให้ประชาชนไม่ต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยขณะอยู่ภายนอกอาคาร โดยเริ่มตั้งแต่วันศุกร์นี้ตามเวลาออสเตรเลีย แม้ว่าเมืองเมลเบิร์นยังคงต้องต่อสู้กับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในพื้นที่
ทั้งนี้ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เมืองเมลเบิร์นสิ้นสุดการล็อกดาวน์เป็นระยะเวลา 2 สัปดาห์ ซึ่งถือเป็นครั้งที่ 4 หลังจากที่เกิดโรคระบาดขึ้น
นายเจมส์ เมอร์ลิโน รักษาการณ์มุขมนตรีรัฐวิกตอเรียกล่าวว่า “รัฐวิกตอเรียจะมีความแข็งแกร่งมากที่สุดเมื่อเราทุกคนรวมพลังกัน โดยรัฐจะกลับมาดำเนินชีวิตตามปกติอีกครั้งตั้งแต่คืนพรุ่งนี้เป็นต้นไป”
แม้จะยอดผู้ป่วยใหม่ที่มีความเชื่อมโยงกับคลัสเตอร์โควิด-19 ในทาวน์เฮ้าส์แห่งหนึ่งจะปรับตัวขึ้นเล็กน้อย เมืองเมลเบิร์นยังคงเดินหน้าทยอยลดข้อกำจัดต่าง ๆ ต่อไป
ทางการเมลเบิร์นจะอนุญาตให้ประชาชนสามารถชุมนุมกันได้สูงสุด 20 คน และยกเลิกคำสั่งห้ามไม่ให้คนรวมตัวกันในบ้าน ส่วนยิมสามารถเปิดให้บริการได้ตามปกติ โดยต้องเว้นระยะห่างอย่างเคร่งครัด ส่วนร้านทำผมสามารถให้บริการได้โดยไม่ต้องสวมหน้ากากอนามัย
อนึ่ง รัฐวิกตอเรียพบผู้ป่วยใหม่ 5 รายในวันนี้ ซึ่งทั้งหมดเชื่อมโยงกับคลัสเตอร์ผู้ป่วยโควิด-19 ในทาวน์เฮ้าส์แห่งหนึ่ง ส่งผลให้มียอดรวมผู้ติดเชื้อจากกรณีนี้ทั้งหมด 8 ราย
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ถือว่าผู้ป่วยรายใหม่มีความเสี่ยงต่ำในการแพร่กระจายเชื้อสู่ชุมชน แต่ก็ได้เตือนประชาชนให้ปฏิบัติตามกฎการเว้นระยะห่างทางสังคมอย่างเคร่งครัด
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (16 มิ.ย. 64)
Tags: COVID-19, คลัสเตอร์, รัฐวิกตอเรีย, ออสเตรเลีย, เจมส์ เมอร์ลิโน, เมลเบิร์น, โควิด-19