หุ้นไทยเช้านี้แนวโน้มปรับฐานตามตลาดภูมิภาคหลังเฟดส่งสัญญาณขึ้นดบ.เร็วกว่าคาด

นักวิเคราะห์ฯคาดตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่ง Sideway ถึง Sideway Down โดยตลาดคงจะปรับฐานเช่นเดียวกับตลาดภูมิภาคที่เช้านี้ติดลบราว -0.2% ถึง -1.0% หลังเฟดส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยถึง 2 ครั้งในปี 66 เร็วกว่าคาด และยังเริ่มหารือการปรับลดวงเงินทำ QE ด้วย แสดงให้เห็นว่านโยบายการเงินเริ่มปรับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ตลาดฯจะต้องปรับเปลี่ยนการลงทุนไปด้วย พร้อมให้แนวรับ 1,610-1,600 แนวต้าน 1,633-1,637 จุด

นายกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน บล.โนมูระ พัฒนสิน กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่ง Sideway ถึง Sideway Down โดยตลาดมีโอกาสที่จะปรับฐานเช่นเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้ต่างปรับตัวลงราว -0.2% ถึง -1.0% หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ส่งสัญญาณว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอาจเกิดขึ้นในปี 2566 ซึ่งเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ 1 ปี และยังคาดว่าเฟดจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยถึง 2 ครั้งในปี 2566

นอกจากนี้ เฟดยังได้เริ่มหารือกันเกี่ยวกับการปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นว่านโยบายการเงินเริ่มปรับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ดังนั้นตลาดฯคงจะต้องปรับเปลี่ยนการลงทุนไปด้วย

พร้อมให้แนวรับ 1,610-1,600 จุด ส่วนแนวต้าน 1,633-1,637 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (16 มิ.ย.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,033.67 จุด ลดลง 265.66 จุด (-0.77%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,223.70 จุด ลดลง 22.89 จุด (-0.54%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,039.68 จุด ลดลง 33.17 จุด (-0.24%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 10.01 จุด, ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 141.67 จุด และดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 195.96 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (16 มิ.ย.) 1,624.79 จุด เพิ่มขึ้น 2.48 จุด (+0.15%)
  • นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 20.08 ล้านบาท เมื่อวันที่ 16 มิ.ย.64
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (16 มิ.ย.) ปิด 72.15 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 3 เซนต์ หรือ 0.04%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (16 มิ.ย.) อยู่ที่ 1.01 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 31.28/32 อ่อนค่าจากดอลลาร์แข็งค่าหลังเฟดส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ย
  • นายกฯออกทีวีพูลแถลงการณ์ไทยต้องเปิดประเทศภายใน 120 วัน ต้นต.ค.นี้ ส่วนเมืองท่องเที่ยวสำคัญ หากพร้อมเปิดได้ก่อน เผยลงนามสัญญาจัดหาวัคซีนได้เกินเป้า 105.5 ล้านโดส ทยอยส่งมอบในปีนี้ ขณะที่ สธ.เผยสัปดาห์นี้ รับมอบแอสตร้า 1.6 ล้านโดส ศบค.เคาะ 18 มิ.ย. ผ่อนมาตรการกลุ่มจังหวัดท่องเที่ยวเพิ่ม องค์กรเอกชนภูเก็ตยื่นหนังสือนายกฯ ให้คนไทยกลับจากนอกร่วม ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ ด้านททท.ผนึกคิงเพาเวอร์ดึง 3 นักเตะ เลสเตอร์ฯ โปรโมทภูเก็ต
  • นายวัฒนพงษ์ คุโรวาท ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) เปิดเผยถึงสถานการณ์ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงชีวภาพว่า สนพ. อยู่ระหว่างทบทวนหลักเกณฑ์การกำหนดราคาเชื้อเพลิงชีวภาพ เพื่อให้ราคาเชื้อเพลิงชีวภาพสะท้อนกับสถานการณ์ปัจจุบันและเป็นธรรมต่อทุกภาคส่วน ทำให้ประชาชนได้ใช้น้ำมันในราคาถูกลง รวมไปถึงการสร้างรายได้ให้เกษตรกร และสร้างความเข้มแข็งให้เศรษฐกิจฐานรากได้อีกด้วย เนื่องจากราคาอ้างอิงในการคำนวณโครงสร้างราคา ณ โรงกลั่นของน้ำมันเชื้อเพลิงที่มีส่วนผสมของเชื้อเพลิงชีวภาพ (ไบโอดีเซลและเอทานอล) ในปัจจุบัน รวมถึงสถานการณ์การผลิต เทคโนโลยีเชื้อเพลิงชีวภาพมีการเปลี่ยนแปลงไป
  • ทอท.เตรียมแผนเสนอ ครม. ช่วงเดือนส.ค.2565 ให้พิจารณาอนุมัติเปิดประมูลโครงการขยายท่าอากาศยานเชียงใหม่ ระยะที่ 1 ปลายปีหน้า พร้อมลงทุนเองวงเงิน 15,818 ล้านบาท คาดได้ผู้รับเหมาต้นปี 2566 มั่นใจก่อสร้าง 2 ปี แล้วเสร็จเปิดให้บริการได้กลางปี 2568

หุ้นเด่นวันนี้

  • SMD (บมจ.เซนต์เมด) เทรดวันนี้วันแรกในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) โดยราคาขาย IPO ที่ 7.20 บาท/หุ้น ด้านบล.ฟินันเซีย ไซรัส ให้ราคาเป้าหมาย 9.20 บาท คาดกำไรปี 2564-2566 โตเฉลี่ย 18% CAGR โดยบริษัทฯเป็นตัวแทนจำหน่ายและผู้นำเข้าเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ มีจุดเด่นด้านสินค้าเวชบำบัดวิกฤต การช่วยหายใจและเวชศาสตร์การนอนหลับ ซึ่งได้ประโยชน์จากโควิด-19 ระยะยาวมีปัจจัยบวกจากนโยบาย Medical Hub และสังคมผู้สูงอายุที่จะเกิดขึ้นเป็น Mega Trend หนุนความต้องการ
  • UWC-W3 (ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญบมจ.เอื้อวิทยา (UWC)) เทรดวันนี้วันแรก มีจำนวน 13,162,525,880 หน่วย อัตราการใช้สิทธิ 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิ : 1 หุ้นสามัญใหม่ ราคาการใช้สิทธิ 0.08 บาทต่อหุ้น อายุใบสำคัญแสดงสิทธิ 2 ปีนับแต่วันที่ออกใบสำคัญแสดงสิทธิ (11 มิ.ย.2564) ราคาใบสำคัญแสดงสิทธิ 0.00 บาทต่อหน่วย กำหนดวันใช้สิทธิครั้งแรก 30 ก.ย. 2564 วันใช้สิทธิครั้งสุดท้าย 10 มิ.ย. 2566
  • CK (ฟินันเซีย ไซรัส) “ซื้อ”เป้า 22 บาท คาดผลการดำเนินงานหลัก Q2/64 พลิกมีกำไรจากเงินปันผลรับจาก TTW และ CKP ขณะที่ H2/64 คาดเร่งตัวต่อเนื่องจากงานรับเหมาใส่ที่มากขึ้นและ BEM ที่ฟื้นตัวตามการ Reopen ทั้งนี้ ธุรกิจรับเหมากำลังเข้าสู่ช่วง S-Curve จาก Backlog ที่คาดเร่งตัวแตะ 1 แสนลบ.อีกครั้ง ล่าสุดชนะประมูลรถไฟทางคู่ 2 สัญญาและลุ้นประมูลรถไฟฟ้าสีม่วงใต้และสีส้ม รวมถึงโรงไฟฟ้าหลวงพระบางใน H2/64 คาดกำไรปกติปี 2564-2565 +141% Y-Y และ +80% Y-Y ตามลำดับ
  • BLA (กรุงศรี) “ซื้อ”เป้า IAA Consensus 37 บาท ได้ Sentiment บวกจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ (US Bond yield) กลับมาเพิ่มขึ้น ส่งผลให้กำไรจากเงินลงทุนของพอร์ตการลงทุนของ BLA เพิ่มขึ้น

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (17 มิ.ย. 64)

Tags: , , , , , ,
Back to Top