ศบค.พบผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่ 3,011 ราย ตาย 10 ราย

ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 3,011 ราย ประกอบด้วย

  • ผู้ติดเชื้อในประเทศจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 2,716 ราย
  • จากการค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกในชุมชน 96 ราย และจากเรือนจำ/ที่ต้องขัง 57 ราย
  • ผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศและเข้าสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ 142 ราย มาจากสหรัฐอเมริกา 23 ราย, สหราชอาณาจักร 21 ราย, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 10 ราย, เยอรมนี และอินเดีย ประเทศละ 8 ราย, ฟินแลนด์ ฝรั่งเศส และรัสเซีย ประเทศละ 7 ราย, ออสเตรเลีย 6 ราย, ญี่ปุ่น 4 ราย, สเปน และสวิตเซอร์แลนด์ ประเทศละ 3 ราย, เอธิโอเปีย จีน เมียนมา ไอร์แลนด์ สวีเดิน อิตาลี ยูเครน คาซัคสถาน เนเธอร์แลนด์ และอุซเบกิซสถาน ประเทศละ 2 ราย, เช็คเชีย นอร์เวย์ ตุรกี แคมารูน อิสราเอล โรมาเนีย อิหร่าน เดนมาร์ก ไอซ์แลนด์ สกอตแลนด์ บัลแกเรีย สิงคโปร์ ฮังการี ฟิลิปปินส์ และโปแลนด์ ประเทศละ 1 ราย
  • เสียชีวิต 10 ราย เป็นชาย 5 ราย หญิง 5 รายอายุเฉลี่ย 66 ปี (38-87 ปี) อายุ 60 ปีขึ้นไป 7 ราย คิดเป็น 70% มีโรคเรื้อรัง 3 ราย คิดเป็น 30% และไม่มีโรคเรื้อรัง 1 ราย คิดเป็น 4%

จังหวัดที่มีรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่สูงสุด 10 อันดับแรก ได้แก่ กรุงเทพมหานคร 399 ราย, ชลบุรี 289 ราย, อุบลราชธานี 254 ราย, นครศรีธรรมราช 161 ราย, ขอนแก่น 99 ราย, มหาสารคาม 81 ราย, สมุทรปราการ 75 ราย, เชียงใหม่ 69 ราย, ภูเก็ต 64 ราย และ ระยอง 59 ราย

สำหรับจำนวนผู้ป่วยยืนยันสะสมในประเทศตั้งแต่ต้นปี 63 จนถึงล่าสุดอยู่ที่ 2,226,446 ราย โดยมีผู้ป่วยรักษาหายแล้วเพิ่มขึ้น 3,315 ราย ยอดเสียชีวิตสะสมเพิ่มเป็น 21,708 ราย

จำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรวันที่ 31 ธ.ค.64 มีจำนวนทั้งหมด 8,420 ราย เข้ามาในกลุ่มไม่ต้องกักตัว (Test&Go) 5,197 ราย, Sandbox 2,481 ราย, Quarantine 742 ราย

ขณะที่สถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ทั่วโลก ล่าสุดวันนี้ มียอดผู้ติดเชื้อสะสมรวม 288,513,266 ราย เสียชีวิต 5,452,900 ราย โดยประเทศที่มียอดผู้ติดเชื้อสูงสุด อันดับแรก คือ ประเทศสหรัฐอเมริกา 55,696,500 ราย อันดับ 2 อินเดีย 34,860,785 ราย อันดับ 3 บราซิล 22,287,521 ราย อันดับ 4 สหราชอาณาจักร 12,937,886 ราย และอันดับ 5 รัสเซีย 10,499,982 ราย ส่วนประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ในอันดับที่ 24

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (01 ม.ค. 65)

Tags: , , ,
Back to Top