ครม.เห็นชอบปรับเพิ่มกรอบวงเงินโครงการรถไฟสายสีแดงอีก 2.9 พันลบ.

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ปรับกรอบวงเงินโครงการระบบรถไฟชานเมือง (สายสีแดง) ช่วงบางซื่อ-รังสิต และช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน ที่เกิดจากภาระภาษีต่างๆ เช่น ค่าภาษีมูลค่าเพิ่มจากการเปลี่ยนแปลงแหล่งเงินกู้จากองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น (JICA) เป็นแหล่งเงินกู้ภายในประเทศ, ค่าภาษีมูลค่าเพิ่มและอากรจากการนำเข้าของโครงการฯสายสีแดง และค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นที่ต้องชำระให้ผู้รับจ้างในส่วนที่เป็นเงินเยนจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน รวมจำนวน 2,917 ล้านบาท

ประกอบด้วย ช่วงบางซื่อ-รังสิต จำนวน 2,011 ล้านบาท และช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน จำนวน 906 ล้านบาท ทำให้กรอบวงเงินลงทุนโครงการระบบรถไฟชานเมืองสายสีแดงตามมติ ครม.เดิมที่อนุมัติไว้จำนวน 93,950 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเป็น 96,868 ล้านบาท

ขณะเดียวกัน ครม.ได้อนุมัติให้ รฟท.กู้เงินภายในประเทศมาจ่ายค่าอากรนำเข้า (Import Duty) ที่ได้รับการอนุมัติงบประมาณจาก ครม.และมีมูลค่างานระบุไว้ในสัญญาแล้วเป็นจำนวนเงิน 660 ล้านบาท พร้อมกันนี้ได้ให้กระทรวงการคลังจัดหาแหล่งเงินจำนวน 7,985 ล้านบาท ประกอบด้วยช่วงบางซื่อ-รังสิต จำนวน 7,078 ล้านบาท และช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชันจำนวน 906 ล้านบาท โดยให้กระทรวงการคลังจัดหาแหล่งเงินที่เหมาะสมพร้อมทั้งค้ำประกันเงินกู้ภายใต้กรอบวงเงินที่ได้รับอนุมัติให้แก่ รฟท. โดยรัฐบาลรับภาระค่างานโครงสร้างพื้นฐานงานโยธา และส่วนที่เกี่ยวข้องตามหลักการของมติ ครม.เมื่อวันที่ 7 พ.ย.49

โดยให้สำนักงบประมาณจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีเพื่อชำระต้นเงิน ดอกเบี้ย และค่าใช้จ่ายอื่นในการกู้เงินในส่วนที่รัฐบาลรับภาระต่อไป ส่วนค่างานระบบไฟฟ้าและเครื่องกล รวมทั้งจัดหาตู้รถไฟฟ้าให้ รฟท.เป็นผู้รับภาระ โดยให้กระทรวงการคลังเป็นผู้พิจารณาการกู้เงิน วิธีการกู้เงิน เงื่อนไข และรายละเอียดต่างๆ ของการกู้เงินตามความเหมาะสมและจำเป็น

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (01 ก.พ. 65)

Tags: , , , , ,
Back to Top