หุ้นไทยแนวโน้มดัชนีเช้าแกว่งไซด์เวย์กังวลรัสเซีย-ยูเครนแต่คาดราคาน้ำมันขึ้นพยุง

นักวิเคราะห์ฯ คาดตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งไซด์เวย์จากความกังวลสถานการณ์ความตึงเครียดรัสเซียและยูเครน รวมทั้ง MSCI ลดน้ำหนักหุ้นไทย แต่จะได้ปัจจัยหนุนจากราคาน้ำมัน ให้แนวรับที่ 1,663-1,670 จุด และแนวต้าน 1,684-1,690 จุด

นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์รายย่อย บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้น่าจะแกว่งไซด์เวย์ จากความกังวลต่อสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างรัสเซียและยูเครน หลังจากประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย สั่งการให้กองกำลังป้องปรามด้วยอาวุธนิวเคลียร์ (Nuclear Deterrent Forces) เตรียมพร้อมในระดับสูงสุดเพื่อรับมือกับบรรดาชาติพันธมิตรขององค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต)

รวมถึง MSCI ได้ลดน้ำหนักตลาดหุ้นไทยลง แต่คาดตลาดบ้านเรายังจะได้รับปัจจัยหนุนจากราคาน้ำมันปรับตัวขึ้น ทำให้ส่งผลดีต่อหุ้นกลุ่มพลังงาน ช่วยพยุงตลาดเอาไว้ได้ในระดับหนึ่ง ส่วนตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่เป็นบวก

ให้แนวรับไว้ที่ 1,663-1,670 จุด แนวต้าน 1,684-1,690 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

– ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (25 ก.พ.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 3334,058.75 จุด พุ่งขึ้น 834.92 จุด หรือ +2.51%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,384.65 จุด พุ่งขึ้น 95.95 จุด หรือ +2.24% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,694.62 จุด พุ่งขึ้น 221.04 จุด หรือ +1.64%

– ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดลดลง 18.98 จุด หรือ -0.071%, ตลาดหุ้นจีน เพิ่มลดลง 1.09 จุด หรือ -0.03% ส่วนตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 50.99 จุด หรือ +0.22%

– ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (25 ก.พ.) ที่ระดับ 1,679.90 จุด เพิ่มขึ้น 17.18 จุด, +1.03%

– นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 2,515.77 ล้านบาท เมื่อวันที่ 25 ก.พ.65

– ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค. ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (25 ก.พ.) ลดลง 1.22 ดอลลาร์ หรือ 1.3% ปิดที่ 91.59 ดอลลาร์/บาร์เรล แต่ปรับตัวขึ้น 1.5% ในรอบสัปดาห์

– ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (25 ก.พ.) อยู่ที่ 7.67 ดอลลาร์/บาร์เรล

– เงินบาทเปิด 32.72 อ่อนค่าตามภูมิภาค ตลาดจับตาสถานการณ์ยูเครนใกล้ชิด ให้กรอบ 32.60-32.80

– สงครามรัสเซียบุกยูเครนป่วนโลก ไทยเตรียมรับผลกระทบทางอ้อม 3 เรื่องใหญ่ “เงินเฟ้อ-ส่งออก-น้ำมัน” บอร์ดพลังงานเผยแนวโน้มค่าไฟฟ้า-ค่า Ft งวดสองขึ้นแน่ๆ เหตุราคาก๊าซธรรมชาติ-LNG ขยับขึ้น ทูตพาณิชย์รัสเซียรอประเมินหลังมาตรการคว่ำบาตร ชี้ค่าเงินรูเบิลอ่อน สินค้านำเข้ารัสเซียราคาพุ่ง สภาเรือถกด่วนเอกชน 10 กลุ่มรับมือวิกฤตส่งออก-ค่าระวาง ททท.หวั่นกระทบนักท่องเที่ยวรัสเซีย หลังโควิดเข้ามาเที่ยวไทยเป็นอันดับ 1 “อุบลไบโอ” รับส้มหล่นแป้งมันขายดี หลังราคาข้าวสาลียูเครนพุ่ง

– “ค่ายรถ” ชี้โครงสร้างภาษีใหม่ หนุนพัฒนาเทคโนโลยี ผู้ได้รับผลกระทบต้องปรับตัว ระบุ อาจเห็น “อีโค คาร์ ไฮบริด” ด้านปิกอัพเชื้อพลังงานไฟฟ้ายังไม่เหมาะ ระบุดีเซล สันดาปภายในตอบสนองใช้งาน ทั่วโลก แนะรัฐกำหนดนโยบายสมดุล “เทคโนโลยี ฐานผลิต-ส่งออก”

– กระทรวงการคลังศึกษาผลกระทบสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครนที่ส่งผลให้ราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับเพิ่มขึ้น ซึ่งมีผลต่อราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศไทยด้วย โดยเฉพาะดีเซลที่เป็นต้นทุนการขนส่งสินค้านั้น กังวลหากราคาน้ำมันตลาดโลกปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องแตะ 120 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล และรัฐบาลยังคงใช้นโยบายราคาน้ำมันดีเซลไว้ลิตรละไม่เกิน 30 บาทนั้น รัฐบาลจำเป็นต้องเพิ่มเงินอุดหนุนเพื่อตรึงราคาขายปลีกน้ำมันดีเซล

– สงครามรัสเซีย-ยูเครนทำราคาอาหารพุ่งทั่วโลกรวมถึงไทย ส่งสัญญาณส่อเค้ารุนแรง ขาดแคลนวัตถุดิบอาหารสัตว์ จนโรงงานหลายแห่งเริ่มหยุดไลน์การผลิต กระทบฟาร์มเลี้ยงสัตว์ทั่วประเทศ ส่งผลปริมาณเนื้อสัตว์ในตลาดลดลง ไม่สามารถส่งออกอาหารได้ตามออเดอร์

– นายกฯ ดีเดย์ 28 ก.พ. คิกออฟท่าเรือมาบตาพุดเฟส 3 เร่งเครื่องพัฒนาอีอีซี หนุนฮับขนส่งทางน้ำอาเซียน ด้าน “ศักดิ์สยาม” ลงพื้นที่ 9 มี.ค.นี้ ตรวจความคืบหน้ามอเตอร์เวย์บ้านแพ้วและด่วนพระราม 3

– ธปท.เร่งแผนปรับโครงสร้างค่าธรรมเนียมใช้ “เงินสด-เช็ค” ตั้งเป้า 5 ปี ลดใช้เช็คทั้งระบบต่ำกว่า 50% เผยแนวทางเก็บค่าธรรมเนียมทำธุรกรรม “ฝาก-ถอน” เงินสดที่สาขา หนุนลูกค้าใช้ช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ แบงก์ขานรับชี้ “เช็คกระดาษ” ลดลงต่อเนื่องทั้งปริมาณและมูลค่า เผยจำนวนเช็คทั้งระบบ 80-90 ล้านรายการต่อปี ต้นทุนบริหารสูงต้องเก็บรักษาตาม กม. 10 ปี

 

หุ้นเด่นวันนี้

– KCE (เคทีบีเอสที) เป้าเชิงกลยุทธ์ 64.00 บาท ลุ้นราคาหุ้นฟื้นแรง คาดนักลงทุนรอซื้อ หากสงครามยูเครน-รัสเซีย จบเร็ว ด้านอุตสาหกรรม ยานยนต์ และ EV ที่กำลังเติบโตทั่วโลกจะเป็นตัวเร่งความต้องการใช้แผงวงจร ทยอยเพิ่มกำลังการผลิต และปรับ Product Mix โดยเพิ่มสัดส่วนการขายแผงวงจร Special grade หนุนมาร์จิ้น KTBST ประเมินกำไรสุทธิปี 2565-2566 ที่ 2.97 พัน ลบ. และ 3.38 พัน ลบ. +23%YoY, +14%YoY ตามลำดับ

– PTTEP (กรุงศรี)”ซื้อ” เป้า 156 บาท ได้ประโยชน์โดยตรงจากราคาน้ำมันดิบที่พุ่งทะลุระดับ 95 เหรียญ/บาร์เรล อีกครั้งหลังจากเหตุการณ์ในยูเครนยังตึงเครียดเป็น Sentiment บวกต่อการลงทุนในกลุ่มธุรกิจน้ำมันโดยเฉพาะ PTTEP ซึ่งมีสูตรราคาเป็น Oil

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (28 ก.พ. 65)

Tags: , , ,
Back to Top