ถอดรหัส “LiVE Exchange” กระดานซื้อขายหุ้นแห่งที่ 3 แหล่งระดมทุนแห่งใหม่ในตลาดทุนของกลุ่มผู้ประกอบการ SMEs และ Startups เตรียมเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการช่วงกลางปี 65 นับเป็นการแก้โจทย์ครั้งสำคัญของหน่วยงานแกนหลักอย่างตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ที่สามารถผลักดันให้ธุรกิจขนาดกลางและเล็กเข้าถึงแหล่งทุนได้ง่ายขึ้น เพราะหลักเกณฑ์เข้าระดมทุนนั้นมีความผ่อนปรนและแตกต่างจากการระดมทุนผ่านตลาดหลักทรัพย์ทั้ง SET และ mai
นายประพันธ์ เจริญประวัติ ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ mai เปิดเผยกับ “อินโฟเควสท์” ว่า นับเป็นข่าวดีของตลาดทุนไทยที่เตรียมเปิดบริการกระดานซื้อขายหุ้นแห่งที่ 3 หรือ LiVE Exchange เพราะช่วยสร้างโอกาสที่ดีให้กับผู้ประกอบการ SMEs และ Startups เข้าถึงแหล่งเงินทุนนำไปต่อยอดสร้างการเติบโตธุรกิจและยังควบคู่ไปกับการเปิดโอกาสให้กับผู้ลงทุนเข้ามาแสวงหาผลตอบแทนในบริษัทที่มีโอกาสเติบโตก้าวกระโดดในอนาคต
“LiVE Exchange” เป็นการยกระดับศักยภาพของตลาดทุนไทยในอีกมิติ หลังจากประสบความสำเร็จตั้งแต่ก่อมาเป็นเวลากว่า 47 ปี สะท้อนได้จากความโดดเด่นหลายมิติ เช่น การเติบโตของมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดโดยรวม (Market Cap) เพิ่มขึ้นต่อเนื่องสูงถึง 15-16 ล้านล้านบาท ,เป็นแหล่งดึงดูดเม็ดเงินลงทุนต่างชาติ มีสภาพคล่องมูลค่าการซื้อขายสูงสุดเป็นอันดับหนึ่งเมื่อเทียบกับตลาดแถบอาเซียน โดยปีล่าสุด (2564) เฉลี่ยอยู่ที่ 9.3 หมื่นล้านบาทต่อวัน
นอกจากนั้น คุณภาพของบริษัทจดทะเบียนไทยยังเป็นที่ยอมรับด้านความยั่งยืนผ่านสายตาเวทีระดับโลก สะท้อนจากบริษัทจดทะเบียนจำนวน 24 บริษัทสามารถเข้าคำนวณในดัชนี Dow Jones Sustainability Indices (DJSI) ที่มีจำนวนสูงสุดในอาเซียน ขณะที่ในปี 2564 ตลาดหลักทรัพยฯมีการระดมทุนผ่านการเสนอขายหุ้นใหม่แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) คิดเป็นมูลค่าสูงกว่า 4.5 แสนล้านบาท นับเป็นมูลค่าสูงสุดในภูมิภาคเอเชียและติดอันดับที่ 18 ของโลก
สำหรับเฟสแรกที่เตรียมเปิดให้บริการ “LiVe Exchange” ตลาดหลักทรัพย์ฯ ยอมรับว่าภายในปี 2565 คงจะมีจำนวนบริษัทที่มีความพร้อมเข้ามาจดทะเบียนเป็น “หลักหน่วย” แม้ว่าขณะนี้จะมีผู้ประกอบการจำนวนมากที่ให้ความสนใจเข้าระดมทุนในกระดานดังกล่าว แต่ช่วงแรก ตลท.ต้องการมุ่งเน้นคุณภาพของบริษัทที่เข้ามาจดทะเบียนเป็นหลัก และต้องการให้ผู้ลงทุนเรียนรู้การลงทุนในรูปแบบใหม่นี้ไปสักระยะก่อน ในอนาคตมั่นใจว่าจะมีบริษัทที่มีคุณภาพอีกจำนวนมากที่สามารถเข้ามาระดมทุนผ่านกระดาน “LiVE Exchange” มากขึ้นแน่นอน
“นอกเหนือจาก “LiVE Exchange” ที่เป็นกระดานแห่งใหม่รองรับการระดมทุนของ SMEs และ Startups แล้ว อีกหนึ่งโครงการที่เราให้ความสำคัญมากที่สุดก็คือ “Live Platform” ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มสำหรับการเรียนรู้ของ SMEs และ Startups แบ่งเป็น 2 ส่วนหลัก ประกอบด้วย “Education Platform” เรียกว่าเป็นห้องเรียนผู้ประกอบการ และ “Scaling up Platform” เป็นข้อมูลหลักเพื่อให้ผู้ประกอบการเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้อย่างถูกต้อง เตรียมความพร้อมเพื่อก้าวเข้าสู่กระดาน “Live Exchange” และเข้าสู่กระดานหลักอย่าง SET และ mai ในอนาคต มองว่าส่วนนี้มีประโยชน์มากกับธุรกิจขนาดเล็กในไทยที่มีมากกว่า 3 ล้านราย ที่วันนี้พบว่ายังเผชิญกับปัญหาขาดความรู้ความเข้าใจโดยเฉพาะเรื่องตลาดทุน เช่น เรื่องระบบหลังบ้าน ระบบบัญชีและระบบควบคุมภายใน ซึ่งจะทำให้นักลงทุนสบายใจในการเข้ามาร่วมลงทุนด้วย”
นายประพันธ์ กล่าว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (07 มี.ค. 65)
Tags: LiVE The Series, mai, ตลาดหุ้น, ประพันธ์ เจริญประวัติ, หุ้นไทย