หุ้นไทยแนวโน้มดัชนีเช้าขึ้นต่อตามภูมิภาคแต่ไม่มากหลังน้ำมันอ่อนตัวกดดันหุ้นพลังงาน

นักวิเคราะห์ฯ คาดตลาดหุ้นไทยเช้านี้ ปรับตัวขึ้นต่อตามตลาดหุ้นเอเชีย แต่คงไม่มาก จากราคาน้ำมันดิบในตลาดซื้อขายล่วงหน้าอ่อนตัวลงกดดันหุ้นกลุ่มพลังงาน และนักลงทุนยังรอดูการเจรจาเพื่อหาข้อยุติในการหยุดยิงระหว่างรัสเซียและยูเครน รวมถึงการประชุมเฟดในสัปดาห์นี้ ให้แนวรับที่ 1,647-1,650 จุด และแนวต้าน 1,668-1,675 จุด

นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์รายย่อย บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวขึ้นได้ต่อ เป็นไปตามตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่เคลื่อนไหวอยู่ในแดนบวก แต่การขยับขึ้นของตลาดหุ้นบ้านเราจะไม่มาก เนื่องจากราคาน้ำมันดิบในตลาดซื้อขายล่วงหน้าอ่อนตัวลงราว 3% อาจส่งผลกดดันต่อหุ้นกลุ่มพลังงาน ที่เผชิญการเทขายทำกำไรออกมา

ขณะเดียวกันนักลงทุนยังคงติดตามการเจรจาเพื่อหาข้อยุติหยุดยิงระหว่างรัสเซียและยูเครน เพื่อหาทางออกร่วมกัน อย่างไรก็ตามปัจจุบันยังไม่มีความคืบหน้าหรือพัฒนาการใดๆ ทำให้ตลาดหุ้นทั่วโลกฟื้นตัวได้เล็กน้อย และการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 15-16 มี.ค.นี้ โดยยังคงคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่ 0.25%

ให้แนวรับไว้ที่ 1,647-1,650 จุด และแนวต้าน 1,668-1,675 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

– ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (11 มี.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 32,944.19 จุด ลดลง 229.88 จุด หรือ -0.69%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,204.31 จุด ลดลง 55.21 จุด หรือ -1.30% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 12,843.81 จุด ลดลง 286.16 จุด หรือ -2.18%

– ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 25,338.64 จุด เพิ่มขึ้น 175.86 จุด หรือ +0.7%, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 20,203.84 จุด ลดลง 349.95 จุด หรือ -1.70% และดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,271.89 จุด ลดลง 37.86 จุด หรือ -1.14%

– ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (11 มี.ค.) ที่ระดับ 1,658.01 จุด เพิ่มขึ้น 10.93 จุด, +0.66%

– นักลงทุนต่างชาติซื้อซื้อสุทธิ 3,640.40 ลบ ล้านบาท เมื่อวันที่ 11 มี.ค.65

– ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย.(11 มี.ค.) พุ่งขึ้น 3.31 ดอลลาร์ หรือ 3.1% ปิดที่ 109.33 ดอลลาร์/บาร์เรล แต่ลดลง 5.5% ในรอบสัปดาห์นี้

– ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (11 มี.ค.) อยู่ที่ 9.22 ดอลลาร์/บาร์เรล

– เงินบาทเปิด 33.33 คาดกรอบวันนี้ 33.25-33.50 ตลาดกังวลราคาน้ำมัน-โควิด-ยูเครน

– “ก.พลังงาน” เร่งหารือ “ก.พาณิชย์” หลังมาตรการจำหน่ายดีเซล B5 เกรดเดียวจะสิ้นสุด 31 มี.ค.นี้ ย้ำให้ความสำคัญปาล์มเพื่อการบริโภคก่อนหลังราคาพุ่งสูง ขณะที่ผู้ผลิตน้ำมันปาล์มดิบ แนะรัฐบริหารสต๊อกซีพีโอให้ดี หากต่ำหนุนเลิกผสมบี 100 ในดีเซล เป็นศูนย์ชั่วคราว โพลชี้คนไทยกังวลราคาน้ำมัน-ค่าครองชีพพุ่ง อยากเห็นรัฐมีแผนแก้ปัญหาราคาพลังงานระยะยาว

– กระทรวงพลังงานยกทีมแถลงแผนรับมือวิกฤตน้ำมันแพงสูงสุดในรอบ 14 ปี สั่งสำรองน้ำมันเพิ่ม 1% มูลค่า 2.4 หมื่นล้าน “สุพัฒนพงษ์” โยนลูกสภาพัฒน์ คิดมาตรการอุ้มประชาชนฝ่าวิกฤต แนะชาวบ้าน “ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน” รับอั้นไม่อยู่ ปล่อย “ขึ้นค่าไฟ-ก๊าซหุงต้ม” “หอการค้า” หวั่นกระทบเงินเฟ้อพุ่ง KKP ชี้วิกฤตรัสเซีย-ยูเครน ฉุดเศรษฐกิจไทยติดกับดัก

– เจรจาแก้สัญญา “ไฮสปีดเชื่อม 3 สนามบิน” ลงตัว รฟท.เร่งสรุปเสนอบอร์ดอีอีซี-ครม. เร่งออก NTP ตอกเข็ม พ.ค.65 เปิดโมเดลเลื่อนจ่ายคืน “ซี.พี.” เป็นเดือนที่ 21 แลกสร้างทับซ้อน “ไทย-จีน” รัฐไม่ควักเพิ่ม แถมประหยัดรวมกว่า 2.7 หมื่นล้านบ.

– ฝ่ายค้านคิกออฟเวทีทะลวงไส้รัฐบาลบิ๊กตู่ จัดหนักถล่มไม่ยั้ง เชื่ออยู่ไม่เกิน ส.ค. อาจไปเพราะปมวาระ 8 ปี “ชลน่าน” หนุน “อุ๊งอิ๊ง-ลูกนายใหญ่” ติดโผแคนดิเดตนายกฯ เพื่อไทย พรรคเล็กพุงปลิ้น เดินสายกินโต๊ะจีนฟรี ตอบรับดินเนอร์ราชพฤกษ์นายกฯ แต่มีโวยไม่ใช่พวกข้างถนน ลั่นแจงศึกซักฟอกไม่ได้ก็ไม่ช่วยอุ้ม

– กรมสรรพสามิตนัดผู้ผลิตรถยนต์ “เกรทวอลล์-เอ็มจี-ฮอนด้า” ร่วมวงมาตรการส่งเสริม “อีวี” ปักธงขายทันงานมอเตอร์โชว์ ให้ส่วนลด 3 เด้ง ทั้งภาษีสรรพสามิต อากรนำเข้า และเงินอุดหนุน 7 หมื่น-1.5 แสน คาดรถราคา 9 แสนบาท จะเหลือ 7 แสนบาท

– นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีความกังวลว่าไทยจะเข้าสู่ภาวะเงินฝืด (stagflation) เพราะผลกระทบจากราคาน้ำมันตลาดโลกที่สูงขึ้น อาจทำให้เศรษฐกิจไทยถดถอย อัตราว่างงานสูงขึ้น ความต้องการสินค้าและบริการลดลง และเกิดภาวะเงินฝืดได้ว่า เมื่อพิจารณาปัจจัยที่ทำให้เกิดภาวะเงินฝืดแล้ว พบว่า โอกาสที่จะเกิดในไทยน้อยมาก แม้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปของไทยในปัจจุบันสูงขึ้นตามราคาน้ำมันในตลาดโลก แต่คาดว่าในระยะต่อไปราคาน้ำมันจะมีอิทธิพลต่อเงินเฟ้อน้อยลงตามสถานการณ์รัสเซีย-ยูเครน และความตึงตัวด้านอุปทานน้ำมันที่มีแนวโน้มจะคลี่คลาย

– เปิดยอด “เอ็นพีเอ” ทรัพย์รอการขาย 10 แบงก์ทะลุ 1.27 แสนล้านบาท ขณะที่ราคาซื้อขายดิ่ง 20% เทียบก่อนโควิด “กสิกรไทย” เปิดแผนเร่งระบาย ทำตลาดเชิงรุกตั้งโบรกเกอร์กว่า 100 ราย พร้อมอัดแคมเปญ “ลดเป็นล้าน” บ้านมือสองลดสูงสุด 60% แบงก์กรุงไทย ชี้ภาวะตลาด “อำนาจเป็นของผู้ซื้อ” ซัพพลายเยอะดีมานด์น้อย

หุ้นเด่นวันนี้

– CRC (คิงส์ฟอร์ด) “ซื้อ” เป้าหมาย 43.50 บาท กำไรสุทธิในช่วงไตรมาส 4/64 อยู่ที่ 2,371 ลบ. (พลิกมีกำไรหลัง ขาดทุนใน 3Q64 ที่ -2,241 ลบ.และเติบโต +124.41%YoY) ฟื้นตัวได้โดดเด่นจากการ Reopening ด้านการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 1/65 เบื้องต้นเราประเมินว่าจะเป็นการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องจาก ม.กระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐฯที่ช่วยกำลังซื้อของผู้บริโภค โดยเฉพาะ ช็อปดีมีคืน(01 ม.ค.65-15ก.พ.65) รวมไปถึงการเดินทางของประชากรซึ่งหากอิง Google Mobility ในส่วนของ Retail&Recreation ตัว Mobility Change ก็ดีขึ้น YoY ซึ่งจะเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ช่วยหนุนยอดขาย(Trafficการเข้าห้างฯฟื้นตัว) นอกจากนี้เราคาดว่าในแง่ของรายได้ค่าเช่าที่มาร์จิ้นสูงก็จะฟื้นตัวเช่นกันต่อเนื่องจากไตรมาส 4/64 โดยปัจจุบันเราประมาณการกำไรสุทธิในช่วงปี65 และปี66 จะฟื้นตัวโดดเด่นขึ้นมาอยู่ ที่ 5,237 ลบ.(+8,722%YoY) และ 7,395 ลบ.(+41.19%YoY) ตามลำดับ

– ORI (ฟินันเซีย ไซรัส) “ซื้อ” เป้าหมาย 15 บาท ORI เป็นมากกว่า Property player ผู้บริหารตั้งเป้า Market cap กว่า 1 แสนลบ.ภายในปี 2568 จากการเติบโตแบบ Multiverse จากธุรกิจเดิมคืออสังหาฯ และธุรกิจใหม่ Logistics, Healthcare, ประกันภัย, พลังงาน และอื่นๆ ส่วนเป้าปี 2565 เตรียมเปิดโครงการใหม่มูลค่ารวม 4.2 หมื่นลบ. +137% Y-Y เป้า Presales 3.5 หมื่นลบ. +16% Y-Y และเป้ารายได้ 1.75 หมื่นลบ. +10% Y-Y เราคาดกำไร +35% Y-Y

– RCL (กรุงศรี) “ซื้อเก็งกำไร” เป้า IAA BB Consensus 54 บาท จีนสั่งล็อกดาวน์เมืองเซินเจิ้นเพื่อควบคุมโควิด-19 คาดกระทบกิจกรรมการขนส่งเนื่องจากเซินเจิ้นมีปริมาณการขนส่งคอนเทนเนอร์ใหญ่เป็นอัน 4 ของโลก ปัจจัยนี้อาจจะหนุนให้ดัชนีค่าระวางเรือคอนเทนเนอร์กลับมาสูงขึ้นได้อีกครั้ง

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (14 มี.ค. 65)

Tags: , ,
Back to Top