ตร.เผยชาวบ้านแห่ใช้บริการแจ้งความออนไลน์มากขึ้น คดีหลอกลวงด้านการเงินเยอะสุด

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ (PCT) กล่าวภายหลังเดินทางไปตรวจเยี่ยมและรับฟังปัญหาในการการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์บริหารการรับแจ้งความออนไลน์ (ศูนย์ฯ) ว่า พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.สั่งการให้มาติดตามการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ฯ ซึ่งเริ่มเปิดให้บริการตั้งแต่ 1 มี.ค.ที่ผ่านมา ขณะนี้พบว่ามีผู้เสียหายมาใช้บริการแจ้งความออนไลน์มากถึงวันละ 300 ราย และมีแนวโน้มที่จะสูงขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากทำได้ง่าย สะดวก สามารถแจ้งที่ไหนก็ได้ มีเจ้าหน้าที่เป็นแอดมินให้บริการ และเชื่อมโยงข้อมูลทางคดีที่เกี่ยวข้องกันได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งผู้เสียหายยังสามารถติดตามความคืบหน้าคดีผ่านระบบ หรือสอบถามปัญหากับเจ้าหน้าที่ได้ตลอดเวลาอีกด้วย

ทั้งนี้จากสถิติการรับแจ้งความตั้งแต่วันที่ 1-18 มี.ค.65 มีการแจ้งความออนไลน์มากถึง 3,752 คดี สูงสุดคือคดีหลอกลวงด้านการเงิน 2,512 เรื่อง รองลงมาเป็นการหลอกจำหน่ายสินค้าออนไลน์ 731 เรื่อง ข่าวปลอม Fake News 82 เรื่อง พนันออนไลน์ 9 เรื่อง ล่วงละเมิดทางเพศ 3 เรื่อง และคดีอาญาอื่นๆ หรือคดีแพ่งที่ยังไม่เข้าข่ายความผิดอีก 415 เรื่อง

รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า ศูนย์บริหารการรับแจ้งความออนไลน์ได้ส่งเรื่องให้สถานีตำรวจที่มีอำนาจสอบสวนแล้ว 3,741 เรื่อง ที่เหลืออีก 11 เรื่องอยู่ระหว่างติดต่อผู้เสียหายเพื่อขอรายละเอียดเพิ่มเติม ตรวจสอบจากระบบพบว่าพนักงานสอบสวนมีการนัดหมายผู้แจ้งแล้ว 3,661 เรื่อง และคดีมีความเชื่อมโยงกันถึง 210 เรื่อง

โดยแบ่งเป็นคดี 5 ประเภท คือ 1.หลอกลวงขายสินค้า มี 16 กลุ่มผู้กระทำผิด ผู้เสียหาย 116 ราย, 2.หลอกลวงขาย ATK มี 5 กลุ่มผู้กระทำผิด ผู้เสียหาย 21 ราย, 3.หลอกลวงทางด้านการเงิน 10 กลุ่มผู้กระทำผิด ผู้เสียหาย 47 ราย, 4.หลอกลงทุนน้ำมัน “ออสซี่ออยล์” มี 5 กลุ่มผู้กระทำผิด ผู้เสียหาย 13 ราย และ 5.หลอกลงทุนธุรกิจเพชร มี 3 กลุ่มผู้กระทำผิด ผู้เสียหาย 13 ราย โดยเจ้าหน้าที่ได้ทำการอายัดบัญชีคนร้ายทั้งหมด 337 บัญชี จำนวนเงิน 129,948,940 บาท โดยสามารถอายัดได้แล้วกว่า 32 ล้านบาท

รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า เริ่มมีประชาชนแจ้งความเข้ามาจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ จนเป็นคดีหลักของโรงพัก แต่เมื่อได้รับการสนับสนุนข้อมูลจากศูนย์ฯ ทำให้พนักงานสอบสวนทำงานง่ายขึ้น สามารถอายัดบัญชีคนร้าย และออกหมายจับผู้กระทำผิดได้รวดเร็วขึ้น จากแต่ก่อนต้องใช้เวลาเป็นเดือนๆ ซึ่งในอนาคต จะพัฒนาขีดความสามารถของระบบการรับแจ้งความออนไลน์ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพื่อรองรับกับปริมาณคดีที่มีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อยๆ

ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กำชับให้ ตร. เร่งตรวจสอบความผิดทางออนไลน์ หากพบหลักฐานการกระทำความผิดให้ดำเนินการไปตามกฏหมายสูงสุด เพราะถือว่าเป็นอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ หากินบนความเดือดร้อนของประชาชน และให้นำเทคโนโลยีมาใช้ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชน จึงเป็นที่มาของโครงการระบบการรับแจ้งความทางออนไลน์นี้ ทั้งนี้หากมีปัญหาสงสัย สามารถติดต่อสอบถามได้ที่สายด่วน สอท. 1441 หรือ ศูนย์ PCT 081-8663000 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือ https://pct.police.go.th

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (19 มี.ค. 65)

Tags: , , ,
Back to Top