หุ้นไทยแนวโน้มดัชนีเช้าปรับขึ้นต่อตามภูมิภาค Fund Flow ไหลเข้า-ยอดติดเชื้อโควิดลดลง

นักวิเคราะห์ฯ คาดตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวขึ้นต่อตามตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชีย และตลาดหุ้นทั่วโลก จาก Fund Flow ที่ยังไหลเข้าต่อเนื่อง และยอดผู้ติดเชื้อในประเทศที่เริ่มลดลง ส่งผลบวกต่อหุ้นกลุ่มเปิดเมืองให้ฟื้นตัวขึ้น อย่างไรก็ตามมองตลาดหุ้นบ้านเราคงปรับขึ้นไม่มาก จากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลงไปมากกดดันหุ้นกลุ่มพลังงาน ให้แนวรับที่ 1,675-1,680 จุด และแนวต้าน 1,690-1,700 จุด

นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์รายย่อย บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวขึ้นต่อ สอดคล้องกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียและตลาดหุ้นทั่วโลก โดยได้รับแรงหนุนจากเงินทุนต่างชาติ (FundFlow) ที่ยังไหลเข้ามาต่อเนื่อง และจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศก็เริ่มปรับตัวลดลง ส่งผลดีต่อหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการเปิดประเทศ

แต่อย่างไรก็ตามตลาดหุ้นบ้านเราคงขึ้นไม่ได้มาก จากราคาน้ำมันดิบที่ร่วงลง 7% กดดันต่อหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังนักลงทุนกังวลจีนประกาศล็อกดาวน์เมืองเซี่ยงไฮ้เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 กระทบดีมานด์ในตลาดโลก

ทั้งนี้ ให้แนวรับไว้ที่ 1,675-1,680 จุด และแนวต้าน 1,690-1,700 จุด มองว่าหากวันนี้ดัชนีสามารถยืนเหนือระดับ 1,686 จุดได้จะทำให้ตลาดฯ กลับมาเป็นขาขึ้นรอบใหม่

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

– ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (28 มี.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,955.89 จุด เพิ่มขึ้น 94.65 จุด หรือ +0.27%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,575.52 จุด เพิ่มขึ้น 32.46 จุด หรือ +0.71% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,354.90 จุด เพิ่มขึ้น 185.60 จุด หรือ +1.31%

– ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 28,173.43 จุด เพิ่มขึ้น 229.54 จุด หรือ +0.82%, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 21,771.29 จุด เพิ่มขึ้น 86.32 จุด หรือ +0.40% และดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,216.01 จุด เพิ่มขึ้น 1.51 จุด หรือ +0.05%

– ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (28 มี.ค.) ที่ระดับ 1,684.30 จุด เพิ่มขึ้น 7.50 จุด, +0.45%

– นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 3,321.39 ล้านบาท เมื่อวันที่ 28 มี.ค.65

– ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค.(28มี.ค.) ร่วงลง 7.94 ดอลลาร์ หรือ 7% ปิดที่ 105.96 ดอลลาร์/บาร์เรล

– ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (28 มี.ค.) อยู่ที่ 16.19 ดอลลาร์/บาร์เรล

– เงินบาทเปิด 33.73 แนวโน้มอ่อนค่าตามภูมิภาค ตลาดเกาะติดท่าทีกนง.พรุ่งนี้

– “นายกฯ” เน้นย้ำคุม “โควิด” ระบาดช่วงเทศกาลสงกรานต์ ทุกฝ่ายต้องยึดมาตรการ VUCA อย่างเข้มงวด แนะลดเสี่ยงทุกกิจกรรม หวังกดตัวเลขผู้ติดเชื้อลง สธ.เน้นมาตรการป้องกันส่วนบุคคล กำชับก่อนกลับบ้าน “Self-Clean up” เริ่มตั้งแต่ 1 เม.ย. กทม.หารือจัดกิจกรรมวันนี้ จ่อไฟเขียวดื่มแอลกอฮอล์ “เซี่ยงไฮ้” คุมไม่ไหว ประกาศล็อกดาวน์สกัดโควิด-19 พุ่ง

– “เอสซีบี” ชี้ผู้นำประเทศ ชี้ช่องให้คนในประเทศสามารถหาโอกาสภายใต้ ความผันผวนไม่แน่นอน หวังประเทศไทยเป็นดิจิทัลฮับของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แนะรัฐแก้กฎระเบียบล้าสมัยให้ทันสถานการณ์ทันโลก ปตท.หวังไทยเป็นศูนย์กลางขับเคลื่อนดิจิทัล สร้างไทยแลนด์ทีม ตีตลาดต่างประเทศถืออำนาจการต่อรองธุรกิจ อยากเห็นประเทศไทยเป็นประเทศที่สามัคคี-เอื้ออาทรซึ่งกันและกัน

– สทท.เผยท่องเที่ยวยังอยู่ในห้อง “ไอซียู” เหตุนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาน้อย ชี้ทางรอดต้องมี 16 ล้านคน สร้างรายได้ 1.2 ล้านล้านบาท จี้รัฐเร่งปลดล็อกเงื่อนไขเข้าประเทศเต็มที่ ด้าน ททท.ตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจ เร่งจ่ายเงิน “เราเที่ยวด้วยกัน” ที่ค้างจ่ายเกือบ 300 ล้านบาท คาดไม่เกิน 60 วันได้ครบทุกราย

– “วิษณุ” บอกรัฐบาลเลิกสงสัยปม”บิ๊กตู่” ครองเก้าอี้นายกฯ 8 ปี เชื่อมีคนสงสัย จ่อส่งศาล รธน.ตีความ ก่อนถึง ส.ค. ชี้กม.กำหนดวันสิ้นสุดชัด แต่ปัญหาเริ่มนับปีไหนของการดำรงตำแหน่ง

– ศูนย์วิจัยกสิกรไทยชี้สงครามรัสเซีย-ยูเครนยืดเยื้อตลอดปี 2565 ส่งผลต่อต้นทุนผู้ประกอบการพุ่งได้ถึง 9% กำไรลดลง ของแพงขายยาก บางรายเจอหนักถึงขั้นหยุดกิจการชั่วคราว ประเมินภาคอุตสาหกรรมไทยเจอผลกระทบมูลค่า 80,000 ล้านบาท

หุ้นเด่นวันนี้

– BE8 (เคทีบีเอสที) เป้าเชิงกลยุทธ์ 44.00 บาท งานใหม่ทยอยเข้าทั้งจากรัฐและเอกชนทั้งงานกลุ่ม Consult, Big Data ด้าน Backlog แข็งแกร่งที่ระดับ 557 ลบ. คาดรับรู้มากกว่า 65% และยังมีโอกาสได้งานใหม่อีกมาก ประเมินรายได้ปี 65 มีโอกาสโต Double Digit, Bloomberg Consensus ประเมินกำไรสุทธิปี 2565-2566 ที่ 132 ลบ. และ 191 ลบ. +61%YoY, 45%YoY ตามลำดับ

– PJW (ฟินันเซีย ไซรัส) “ซื้อ” เป้าหมาย 6 บาท คาดแนวโน้มการเติบโตปี 2565 ยังสดใสทั้งธุรกิจบรรจุภัณฑ์พลาสติกที่ฟื้นตัว รวมถึงจะเห็นพัฒนาการที่ชัดเจนขึ้นในการ Diversify ไปยังพลาสติกทางการแพทย์ซึ่งแนวโน้มเติบโตดีระยะยาวและมี Margin สูง คาดว่า PJW มีศักยภาพและเตรียมรุกตลาดชิ้นส่วนพลาสติกสำหรับ EVs ในเร็วๆนี้ เป็นบวกต่อการเติบโตและชดเชยการชะลอตัวของบรรจุภัณฑ์น้ำมันหล่อลื่นได้ในระยะยาว เราคาดกำไรปี 2565-2567 +15% CAGR

– OSP (กรุงศรี) “ซื้อ” เป้าสูงสุด IAA Consensus 42 บาท ธุรกิจเข้าสู่ High season ด้านยอดขายและกำไรคาดฟื้นตัวจากจากการปรับขึ้นราคา M-150 จาก 10 เป็น 12 บาท และไตรมาส 2/65 เตรียมวางขายเครื่องดื่ม functional drink ผสม CBD จากกัญชง

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (29 มี.ค. 65)

Tags: , ,
Back to Top