หุ้นไทยแนวโน้มดัชนีเช้าปรับขึ้นทดสอบ 1,700 จุด ขานรับเจรจารัสเซีย-ยูเครนคืบหน้า

นักวิเคราะห์ฯ คาดตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวขึ้นทดสอบ 1,700 จุด สอดคล้องกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชีย ตอบรับการเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครนมีความคืบหน้า หลังมีการรายงานว่ารัสเซียจะลดปฎิบัติทางทหารรอบกรุงเคียฟ เมืองหลวงของยูเครนลง เพื่อนำไปสู่การเจรจาสันติภาพรอบใหม่ ส่งผลให้นักลงทุนมั่นใจหันมาถือครองสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น ให้แนวรับไว้ที่ 1,685-1,686 จุด และแนวต้าน 1,700-1,705 จุด

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคระห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวขึ้นทดสอบระดับ 1,700 จุด สอดคล้องกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชีย ตอบรับการเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครนมีความคืบหน้าอย่างมาก โดยมีการรายงานว่า รัสเซียจะลดปฏิบัติการทางทหารลงรอบกรุงเคียฟ ซึ่งเป็นเมืองหลวงของยูเครน รวมทั้งเมืองเชอร์นิฮิฟ เพื่อเพิ่มความไว้วางใจระหว่างรัสเซียและยูเครน และเพื่อเอื้ออำนวยต่อการเจรจาสันติภาพในครั้งต่อไปของทั้งสองฝ่าย ทำให้นักลงทุนมั่นใจและหันกลับมาถือสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม ก็ยังต้องติดตามประเด็นดังกล่าวต่อไป เนื่องจากรัสเซียอาจเปลี่ยนแปลงท่าทีได้ ขณะที่วันนี้แนะจับตาดูการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) โดยคาดการณ์ว่าจะยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 0.5% ต่อปี เพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ แม้อัตราเงินเฟ้อจะเร่งตัวขึ้นแต่ก็เชื่อว่าจะสามารถควบคุมได้

ให้แนวรับไว้ที่ 1,685-1,686 จุด และแนวต้าน 1,700-1,705 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

– ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (29 มี.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 35,294.19 จุด เพิ่มขึ้น 338.30 จุด หรือ +0.97%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,631.60 จุด เพิ่มขึ้น 56.08 จุด หรือ +1.23% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,619.64 จุด เพิ่มขึ้น 264.73 จุด หรือ +1.84%

– ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 28,250.80 จุด ลดลง 1.62 จุด หรือ -0.01%, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 22,101.63 จุด เพิ่มขึ้น 174.00 จุด หรือ +0.79% และดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,217.59 จุด เพิ่มขึ้น 13.65 จุด หรือ +0.43%

– ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (29 มี.ค.) ที่ระดับ 1,689.74 จุด เพิ่มขึ้น 5.44 จุด, +0.32%

– นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 3,555.96 ล้านบาท เมื่อวันที่ 29 มี.ค.65

– ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค.(29 มี.ค.) ลดลง 1.72 ดอลลาร์ หรือ 1.6% ปิดที่ 104.24 ดอลลาร์/บาร์เรล

– ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (29 มี.ค.) อยู่ที่ 12.81 ดอลลาร์/บาร์เรล

– เงินบาทเปิด 33.55 แข็งค่าตามทิศทางภูมิภาค จับตากนง.บ่ายนี้ประเมินทิศทางศก.ไทย

– “คลัง” เผยปีนี้ยังไม่เก็บภาษีขายหุ้น เหตุเศรษฐกิจไม่เอื้อ โควิดระบาด “สรรพากร” ยันไม่กระทบเป้า จัดเก็บรายได้ “เฟทโก้” ย้ำจุดยืนไม่เห็นด้วยที่เก็บภาษี “บล.หยวนต้า” ชี้ปลดล็อกความกังวลปีนี้ ด้านนักลงทุนวีไอ “นิเวศน์” ชี้ถือเป็นเรื่องที่ดีแต่หากกลับมาเก็บ ควรบอกล่วงหน้าอย่างน้อย 1 ปี

– “อนุทิน” ยัน “ยาฟาวิพิราเวียร์” ไม่ขาดแคลนมีสต็อกกว่า 25 ล้านเม็ด สั่งองค์การเภสัชสำรอง “ฟาวิพิราเวียร์-โมลนูพิราเวียร์” เพิ่มอีก 75 ล้านเม็ด รับมือหลังเทศกาลสงกรานต์ กรมการแพทย์ ย้ำกลุ่มไม่มีอาการ-อาการไม่มาก ไม่จำเป็นต้องได้ยาฟาวิพิราเวียร์ ขอให้ใช้ยาอย่างสมเหตุสมผล ป้องกันการดื้อยา-ผลข้างเคียง

– สมาคมตลาดตราสารหนี้ฯ เผย ไตรมาส 1/65 เอกชนออกหุ้นกู้คึกคัก แตะ 2.48 แสนล้าน โต 43% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ด้านนักลงทุนตอบรับดี คาดทั้งปีนี้ยังมียอดออกทะลุ 1 ล้านล้าน ต่อเนื่องอีกปี เหตุต้นทุนยังไม่สูง แม้ดอกเบี้ยขาขึ้น พร้อมแนะทยอยลงทุนหุ้นกู้ระยะสั้น

– นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง เปิดเผยว่า จากสถานการณ์สงครามรัสเซีย-ยูเครน และสถานการณ์โควิดที่ยังไม่คลี่คลาย มีผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยและเศรษฐกิจโลก จนทำให้หลายฝ่ายเสนอให้รัฐบาลกู้เงินเพิ่มเติมเพื่อนำมาเยียวยาและฟื้นฟูเศรษฐกิจนั้น ขณะนี้กระทรวงการคลังยังไม่ได้พิจารณาประเด็นการกู้เงินเพิ่มเติมโดยรัฐบาลได้ออก พ.ร.ก.กู้เงินไปแล้ว 1.5 ล้านล้านบาท ปัจจุบันเงินกู้ยังเหลืออยู่ 70,000 ล้าน

– ธุรกิจตั้งรับประกาศโควิดเป็นโรคประจำถิ่น สภาท่องเที่ยวฯ วอนรัฐเดินหน้าปลดล็อกทุกเงื่อนไขเข้าประเทศโดยด่วน 1 พ.ค.นี้ อย่ารอเวลา สินค้าอุปโภคบริโภคชี้ถือเป็นสัญญาณบวกหวังคนกลับมาจับจ่าย ใช้ชีวิตคึกคักขึ้น ด้านนายกสมาคม รพ.เอกชน-สมาคมภัตตาคารไทย ยันยังเร็วไปที่จะสรุปเป็นโรคประจำถิ่น เหตุผู้ป่วยรายใหม่-ผู้เสียชีวิตยังอยู่สูง ต่างชาติยังชะลอตัว

หุ้นเด่นวันนี้

– IVL (กรุงศรี) “ซื้อ” เป้า 60 บาท สงครามยูเครนไม่กระทบธุรกิจในยุโรป ด้านผลประกอบการจะเริ่มรับรู้รายได้และกำไรจาก Oxiteno จากบราซิลตั้งแต่เดือน มี.ค. ปีนี้หนุนกำไรเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญตั้งแต่ไตรมาส 2/65 เนื่องจากสินค้าของ Oxiteno เป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่เป็น High value & High Margin

– CPALL (เมย์แบงก์) เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 79 บาท คาดกำไรไตรมาส 1/65 ขยายตัวเด่นทั้ง QoQ, YoY จากการบริโภคที่ฟื้นตัว การขยายสาขา การปรับเพิ่มราคาสินค้าจากต้นทุนสินค้าที่ปรับขึ้น หนุน SSSG ช่วง ม.ค.-ก.พ. ของร้าน 7-11 คาดปรับขึ้นเด่น 10-11% รวมทั้งอัตราการทำกำไรขั้นต้นคาดเพิ่มขึ้นราว 20-40 bps เพิ่มความน่าสนใจในการสะสม

– GFPT (กสิกรไทย) แนะนำ”ซื้อ”เป้าหมาย 15 บาท ผู้บริหารมีมุมมองบวกต่อการฟื้นตัวในปีนี้จากอุปสงค์ที่ฟื้นตัวขึ้นและการอัพเกรดกำลังการผลิตที่เสร็จสมบูรณ์ คาดกำไรไตรมาส 1/65 จะฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง YoY และ QoQ

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (30 มี.ค. 65)

Tags: , ,
Back to Top