รมช.เกษตรฯ ขีดเส้นสหกรณ์ออมทรัพย์รวบรวมข้อมูลปมทุจริต ก่อนนัดถกด่วน 6 เม.ย.นี้

น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รมช.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงกรณีการทุจริตของสหกรณ์ออมทรัพย์ กระทรวงเกษตรฯ ได้สั่งการให้ประธานสหกรณ์ออมทรัพย์ กระทรวงเกษตรฯ รวบรวมรายละเอียดทั้งหมดภายใน 2 วัน โดยจะเรียกประชุมกรรมการสหกรณ์ทั้งหมด พร้อมด้วยปลัดกระทรวงเกษตรฯ หารือพร้อมกันในวันพุธที่ 6 เม.ย. นี้ เพื่อตรวจสอบข้อมูลทั้งหมด และนำเรื่องเข้าดำเนินคดีทันที เพื่อเอาผิดกับการทุจริตครั้งนี้อย่างถึงที่สุด

“เรื่องนี้น่าจะเป็นเครื่องยืนยันว่า ทำไมกรมส่งเสริมสหกรณ์และกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ จึงต้องมีกฎหมายที่เข้มแข็งในการดูแลสหกรณ์ทั้งหมด เพราะแม้ว่าสหกรณ์จะเป็นนิติบุคคล แต่การเข้าไปตรวจสอบถือว่าเป็นเรื่องสำคัญ ทั้งนี้ จะเห็นว่าเมื่อกรมฯ เข้าไปดำเนินการ กรรมการสหกรณ์แต่ละแห่งมักแสดงความไม่พอใจ ทั้งที่ควรจะยินดีเปิดทางให้กรมสอบเป็นการแสดงถึงการบริหารงานของสหกรณ์ที่โปร่งใสสร้างความเชื่อมั่นให้สมาชิก ฉะนั้นการทุจริตของสหกรณ์ออมทรัพย์กระทรวงเกษตรฯ ครั้งนี้ แม้จะเป็นเรื่องของบุคคลที่ทุจริต แต่สะท้อนให้เห็นว่า การบริหารจัดการยังมีช่องโหว่ วันที่ 6 เม.ย. เจอกันแน่นอนวันหยุดก็ต้องมาชี้แจง ขอให้กรรมการทุกคน หรือสมาชิกถ้าอยากมาก็มาฟังได้พร้อมกันเพราะเป็นสิทธิประโยชน์ที่ทุกคนต้องปกป้อง” รมช.เกษตรฯ กล่าว

ด้านนายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าวว่า ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ของกรมที่รับผิดชอบในเขตพื้นที่นำรายงานการตรวจสอบสหกรณ์มาชี้แจง เนื่องจากได้สั่งเป็นนโยบายไว้ให้สแกนทุกสหกรณ์ไม่มีการละเว้น เพื่อป้องกันการทุจริตซึ่งหากพบว่าไม่ดำเนินการจะดำเนินการขั้นตอนของราชการทันที นอกจากนี้ได้สั่งการอื่นๆ ได้แก่

1. ให้ทีมผู้ตรวจการสหกรณ์ ตรวจสอบลูกหนี้เงินกู้และจำนวนเจ้าหนี้เงินฝากรายใหญ่ 100 รายแรกของสหกรณ์ออมทรัพย์ทุกแห่ง สำหรับสหกรณ์ออมทรัพย์ กระทรวงเกษตรฯ ให้สหกรณ์สอบทานเงินฝากสมาชิกทุกราย หากพบว่ามีรายการผิดปกติต้องสั่งการให้สหกรณ์ตรวจสอบข้อเท็จจริงทันที

2. ขอความร่วมมือให้ทุกสหกรณ์ออมทรัพย์ทั่วประเทศ จัดจ้างหรือจัดทำหรือขอใช้แอปพลิเคชันที่ให้สมาชิกตรวจสอบข้อมูลของตนเองได้อย่างทันที ตามนโยบายที่ให้ไว้ภายในปีนี้

3. สหกรณ์ที่มีแอปพลิเคชันแล้ว ต้องมีสมาชิกใช้บริการไม่น้อยกว่า 90% นอกจากนี้ จะเตรียมแก้คำสั่งนายทะเบียนสหกรณ์ กำหนดให้สหกรณ์ออมทรัพย์ต้องมีการวางระบบตรวจสอบการเงินให้ทันสมัย สมาชิกตรวจสอบได้ตลอดเวลา และสร้างความสัมพันธ์ที่ดีในครอบครัว ชุมชน มีการออมและได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ

4. เกษตรกร 99.40% มีการดำเนินการได้ตามแผนการผลิต มีรายได้จากการจำหน่ายผลผลิตทางการเกษตร เฉลี่ยรายละ 8,954 บาทต่อเดือน

ทั้งนี้ สหกรณ์ออมทรัพย์กระทรวงเกษตรฯ ได้ออกหนังสือชี้แจงต่อกรณีดังกล่าวว่า ตรวจสอบพบเนื่องจากสหกรณ์ได้เปิดบริการให้สมาชิกตรวจสอบเงินผ่านระบบออนไลน์ แล้วสมาชิกพบว่ายอดเงินน้อยกว่าจำนวนเงินที่ระบุไว้ในสมุดบัญชีเงินฝาก และได้มาขอตรวจสอบเมื่อ 31 มี.ค. ที่ผ่านมา เบื้องต้นพบว่า มีการปลอมรายมือชื่อ ทั้งนี้ สหกรณ์จะรวบรวมรายละเอียดดำเนินคดีกับผู้จัดการสหกรณ์ และเจ้าหน้าที่การเงินที่เกี่ยวข้องอย่างถึงที่สุด

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (04 เม.ย. 65)

Tags: , , , , ,
Back to Top