SCB ยกเครื่องแพลตฟอร์ม Business Anywhere อัพเกรดประสบการณ์ธนาคารดิจิทัล

นายธนวัฒน์ กิตติสุวรรณ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงาน GTS and Ecosystems ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) กล่าวว่า การทำธุรกรรมทางการเงินผ่านช่องทางดิจิทัลเติบโตอย่างก้าวกระโดดไม่เพียงเฉพาะในกลุ่มลูกค้าบุคคลเท่านั้น แต่รวมถึงกลุ่มลูกค้าธุรกิจทั้งธุรกิจรายใหญ่และเอสเอ็มอีที่กำลังเปลี่ยนผ่านธุรกรรมการเงินไปสู่ดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบมากยิ่งขึ้น โดยพบว่าการทำธุรกรรมผ่านช่องทางดิจิทัลของลูกค้าธุรกิจธนาคารไทยพาณิชย์ในปี 64 เติบโตถึง 59% คิดเป็นมูลค่ามากถึง 1.16 ล้านล้านบาท ประกอบกับสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่เปลี่ยนไปและการแข่งขันที่รุนแรงขึ้น

ธนาคารจึงมุ่งมั่นที่จะพัฒนาศักยภาพ SCB Business Anywhere แพลตฟอร์มดิจิทัลแบงก์กิ้งสำหรับลูกค้าธุรกิจของธนาคารให้มีสมรรถนะที่ดียิ่งขึ้นในทุกมิติ เพื่อบรรลุเป้าหมายในการตอบโจทย์ธุรกิจภายใต้สภาพแวดล้อมใหม่ๆ ได้มากกว่าที่ลูกค้าคาดหวัง และสร้างประสบการณ์ธนาคารดิจิทัลที่สมาร์ทยิ่งกว่าอย่างครบวงจร รองรับการทำธุรกรรมทางการเงินทั้งสำหรับธุรกิจในประเทศและการค้าขายระหว่างประเทศที่เติบโตมากขึ้น

ในปีที่ผ่านมาธนาคารได้นำลูกค้าธุรกิจของธนาคารทั้งหมดจำนวนกว่า 1 แสนรายขึ้นบนแพลตฟอร์มเป็นกลุ่มแรก เพราะต้องการช่วยสนับสนุนให้ลูกค้าสามารถคว้าโอกาสทางธุรกิจจากโลกการค้าที่เชื่อมต่อกันเป็นหนึ่งเดียวได้ดียิ่งขึ้น ด้วยฟีเจอร์อัจฉริยะและบริการใหม่ๆ โดยเฉพาะบริการชำระเงินระหว่างประเทศ (International Payment) ซึ่งเป็นบริการใหม่และเป็นจุดเด่นของการพัฒนา SCB Business Anywhere ในเฟสนี้

สำหรับ SCB Business Anywhere โฉมใหม่ได้พัฒนาประสิทธิภาพของระบบด้วยคุณสมบัติและบริการ ได้แก่

1. บริการธุรกรรมเงินโอนต่างประเทศสำหรับธุรกิจ (International Payment) ขยายศักยภาพจากธุรกรรมพื้นฐานสู่บริการโอนเงินไปต่างประเทศที่ครอบคลุมถึง 18 สกุลเงิน เชื่อมโอกาสทางธุรกิจในเวทีโลกได้อย่างกว้างไกล

2. ระบบแนะนำบริการโอนเงิน/ชำระเงิน (Product Recommendation) โดยแนะนำบริการที่เหมาะสมและคุ้มค่าที่สุดโดยอัตโนมัติ

3. ระบบแสดงผลการทำธุรกรรมทุกรายการแบบเรียลไทม์ (Realtime Transaction) รวดเร็วและแม่นยำ ตลอด 24 ชั่วโมง

4. ระบบบริหารจัดการข้อมูลผู้ใช้งานด้วยตนเอง (Self Admin) ฟังก์ชั่นการจัดการบัญชีผู้ใช้งานที่มีความหลากหลายและคล่องตัวมากยิ่งขึ้น เช่น การเพิ่มผู้ใช้งาน การปรับขั้นตอนการอนุมัติรายการ และสมัครบริการเพิ่มเติม ผ่านระบบด้วยตัวเอง เป็นต้น

5. บริการ SCB Digital Token ธนาคารไทยแห่งแรกที่นำระบบ Digital Token เข้ามาผสานร่วมกับแพลตฟอร์มดิจิทัลแบงก์กิ้ง เพื่อใช้สำหรับออกรหัสลับสำหรับทำธุรกรรมออนไลน์ ด้วยการรักษาความปลอดภัยระดับสูง (military-grade) ที่น่าเชื่อถือซึ่งได้รับการยอมรับโดยธนาคารและรัฐบาล หลายแห่ง ตอบโจทย์การใช้งาน ไม่ต้องพกพาเครื่อง Token อีกต่อไป

นอกจากนี้ ยังได้ปรับโฉม SCB Business Anywhere ให้มีหน้าตาทันสมัยออกแบบให้ง่ายต่อการใช้งาน และขยายขีดความสามารถให้ลูกค้าทำธุรกรรมจำนวนมากในเวลาเดียวกันได้อย่างเสถียรแบบไร้รอยต่อ และคาดว่าจะมีปริมาณธุรกรรมบนแพลตฟอร์มมากกว่า 25 ล้านรายการ เติบโต 30% ในปี 65 พร้อมเดินหน้าสู่การเป็นแพลตฟอร์มดิจิทัลแบงก์กิ้งที่ลูกค้าธุรกิจเลือกใช้เป็นธนาคารหลัก

และได้จัดแคมเปญพิเศษเพื่อส่งเสริมการใช้งานแพลตฟอร์ม SCB Business Anywhere โดยมอบโปรโมชัน ฟรี ค่าธรรมเนียมแรกเข้าและค่าธรรมเนียมรายปี พร้อม ฟรี ค่าธรรมเนียมชำระบิลและโอนเงินภายในประเทศทุกรายการสำหรับลูกค้าที่สมัครใช้บริการ SCB Business Anywhere รูปแบบใหม่ ตั้งแต่วันนี้ – 31 ธ.ค. 65

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (05 เม.ย. 65)

Tags: , , ,
Back to Top