ปภ. เร่งสำรวจความเสียหาย-ช่วยเหลือประชาชนจากเหตุวาตภัยใน 21 จังหวัด

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กระทรวงมหาดไทย รายงานสถานการณ์จากความกดอากาศสูง หรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางได้แผ่ลงมาปกคลุมถึงประเทศเวียดนามตอนบน ลาวตอนบน และทะเลจีนใต้ และแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในขณะที่ประเทศไทยมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด ทำให้บริเวณดังกล่าวเกิดพายุฤดูร้อนขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และมีลูกเห็บตกบางแห่ง รวมถึงอาจมีฟ้าผ่าเกิดขึ้นบางพื้นที่ ซึ่งมีผลกระทบในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคใต้ตอนบน

ทั้งนี้ ในช่วงวันที่ 16-19 เม.ย. 65 ยังคงมีสถานการณ์ในพื้นที่ 21 จังหวัด รวม 58 อำเภอ 137 ตำบล 405 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 3,241 หลัง มีผู้เสียชีวิต 2 ราย (เชียงรายและตาก) ผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 ราย (ตาก) โดยสามารถแยกได้ ดังนี้

ภาคเหนือ 11 จังหวัด รวม 38 อำเภอ 89 ตำบล 331 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 2,819 หลัง ผู้เสียชีวิต 2 ราย ผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 ราย ได้แก่

– ตาก เกิดวาตภัยในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองตาก อำเภอบ้านตาก อำเภอวังเจ้า และอำเภอสามเงา รวม 10 ตำบล 12 หมู่บ้าน มีผู้เสียชีวิต 1 ราย ผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 ราย

– แม่ฮ่องสอน เกิดวาตภัยในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอปาย และอำเภอปางมะผ้า รวม 3 ตำบล 4 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 3 หลัง

– เชียงราย เกิดวาตภัยในพื้นที่ 13 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเวียงเชียงรุ้ง อำเภอดอยหลวง อำเภอเชียงของ อำเภอเมืองเชียงราย อำเภอเวียงแก่น อำเภอพญาเม็งราย อำเภอเทิง อำเภอพาน อำเภอแม่สาย อำเภอเวียงชัย อำเภอป่าแดด อำเภอเวียงป่าเป้า และอำเภอแม่สรวย รวม 38 ตำบล 177 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 2,559 หลัง มีผู้เสียชีวิต 1 ราย

– พะเยา เกิดวาตภัยในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองพะเยา และอำเภอจุน รวม 9 ตำบล 65 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 72 หลัง

– เชียงใหม่ เกิดวาตภัยในพื้นที่อำเภอกัลยานิวัฒนา รวม 1 ตำบล 1 หมู่บ้าน

– น่าน เกิดวาตภัยในพื้นที่อำเภอ เวียงสา รวม 1 ตำบล 1 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 1 หลัง

– ลำปาง เกิดวาตภัยในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอวังเหนือ อำเภอเมืองปาน และอำเภอเถิน รวม 4 ตำบล 4 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 4 หลัง

– กำแพงเพชร เกิดวาตภัยในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองกำแพงเพชร อำเภอขาณุวรลักษบุรี อำเภอปางศิลา และอำเภอคลองขลุง รวม 11 ตำบล 30 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 121 หลัง

– เพชรบูรณ์ เกิดวาตภัยในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอหล่มสัก อำเภอหล่มเก่า และอำเภอวังโป่ง รวม 3 ตำบล 7 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 59 หลัง

– พิจิตร เกิดวาตภัยในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอตะพานหิน อำเภอบางมูลนาก อำเภอโพทะเล และอำเภอดงเจริญ รวม 5 ตำบล 7 หมู่บ้าน

– ลำพูน เกิดวาตภัยในพื้นที่อำเภอเมืองลำพูน รวม 4 ตำบล 23 หมู่บ้าน

ภาคกลาง 3 จังหวัด รวม 4 อำเภอ 13 ตำบล 26 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 336 หลัง ได้แก่

– สิงห์บุรี เกิดวาตภัยในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอท่าช้าง และอำเภอบางระจัน รวม 5 ตำบล 17 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 100 หลัง

– อ่างทอง เกิดวาตภัยในพื้นที่อำเภอป่าโมก รวม 1 ตำบล 2 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 6 หลัง

– พระนครศรีอยุธยา เกิดวาตภัยในพื้นที่อำเภอบางบาล รวม 7 ตำบล 7 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 230 หลัง

ภาคตะวันออก 2 จังหวัด รวม 6 อำเภอ 21 ตำบล 25 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 31 หลัง ได้แก่

– นครนายก เกิดวาตภัยในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองนครนายก อำเภอบ้านนา อำเภอปากพลี และอำเภอองครักษ์ รวม 18 ตำบล 21 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 28 หลัง

– ปราจีนบุรี เกิดวาตภัยในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอนาดี และอำเภอประจันตคาม รวม 3 ตำบล 4 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 3 หลัง

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 5 จังหวัด รวม 10 อำเภอ 14 ตำบล 23 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 55 หลัง ได้แก่

– กาฬสินธุ์ เกิดวาตภัยในพื้นที่อำเภอหนองกุงศรี รวม 1 ตำบล 1 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 3 หลัง

– สกลนคร เกิดวาตภัยในพื้นที่อำเภอวานรนิวาส รวม 1 ตำบล 3 หมู่บ้าน

– มหาสารคาม เกิดวาตภัยในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองมหาสารคาม และอำเภอกันทรวิชัย รวม 1 ตำบล 1 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 1 หลัง

– อุดรธานี เกิดวาตภัยในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเพ็ญ และอำเภอบ้านดุง รวม 4 ตำบล 9 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 36 หลัง

– ชัยภูมิ เกิดวาตภัยในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอภักดีชุมพล อำเภอบำเหน็จณรงค์ อำเภอซับใหญ่ และอำเภอบ้านแท่น รวม 7 ตำบล 9 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 15 หลัง

อย่างไรก็ดี กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้ประสานจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ เร่งสำรวจความเสียหายและให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเบื้องต้นแล้ว ประชาชนสามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือทางไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ 1784” โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM และสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ ยังสามารถติดตามประกาศการแจ้งเตือนภัยผ่านแอปพลิเคชัน “THAI DISASTER ALERT” ได้ด้วย

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (19 เม.ย. 65)

Tags: , ,
Back to Top