หุ้นไทยแนวโน้มดัชนีเช้ารีบาวด์แกว่งในกรอบตามตลาดเอเชีย ปัจจัยเปิดประเทศหนุน

นักวิเคราะห์ฯคาดตลาดหุ้นไทยวันนี้รีบาวด์ขึ้น และแกว่งต่วกรอบแคบตามตลาดหุ้นเอเชียที่ส่วนใหญ่ปรับตัวขึ้น แม้ว่ายังไม่มีปัจจัยใหม่ แต่มีปัจจัยในประเทศการเปิดประเทศและการผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิด-19 เข้ามาหนุนต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ แม้ยังคงเผชิญปัจจัยเสี่ยงข้างหน้า ที่ยังมีการขึ้นดอกเบี้ย กระทบเศรษฐกิจชะลอต่อไป ทำให้ดัชนียังมีแรงกดดันอยู่บ้าง โดยที่แนวต้าน 1,565-1,570 จุด แนวรับ 1,545-1,550 จุด

นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้คาดว่ารีบาวด์ขึ้น และแกว่งตัวในกรอบแคบ ตามตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่ส่วนใหญ่ปรับตัวเพิ่มขึ้น แม้ว่าจะยังไม่มีปัจจัยใหม่ๆ แต่มองว่าตลาดหุ้นไทยยังมีแรงหนุนในเรื่องของการเปิดประเทศและการผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิด-19 ที่ทำให้เศรษฐกิจไทยกลับมาฟื้นตัวได้ดี

อย่างไรก็ตามยังมีปัจจัยลบรออยู่ ทั้งการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ที่จะตามมาด้วยผลของการทำให้เศรษฐกิจชะลอตัวในระยะต่อไป เป็นต้น ทำให้แม้ว่าดัชนีที่อาจจะปรับขึ้นมาเป็นการขึ้นมาเพียงระยะสั้น และอาจจะมีแรงกดดันดัชนีต่อได้

โดยที่แนวต้าน 1,565-1,570 จุด แนวรับ 1,545-1,550 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

– ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (23 มิ.ย.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 30,677.36 จุด เพิ่มขึ้น 194.23 จุด หรือ +0.64%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,795.73 จุด เพิ่มขึ้น 35.84 จุด หรือ +0.95% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,232.19 จุด เพิ่มขึ้น 179.11 จุด หรือ +1.62%

– ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 26,228.42 จุด เพิ่มขึ้น 57.17 จุด หรือ +0.22%, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 21,450.68 จุด เพิ่มขึ้น 176.81 จุด หรือ +0.83% และดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,324.74 จุด เพิ่มขึ้น 4.59 จุด หรือ +0.14%

– ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (23 มิ.ย.) ที่ระดับ 1,557.61 จุด ลดลง 2.41 จุด, -0.15%

– นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 2,237.15 ล้านบาท เมื่อวันที่ 23 มิ.ย.65

– ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ส.ค.(23 มิ.ย.) ลดลง 1.92 ดอลลาร์ หรือ 1.8% ปิดที่ 104.27 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 10 พ.ค. 2565

– ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (23 มิ.ย.) อยู่ที่ 30.25 ดอลลาร์/บาร์เรล

– เงินบาทเปิด 35.52 แนวโน้มอ่อนค่ารับดอลลาร์แข็งค่า หลังเฟดส่งสัญญาณเดินหน้าขึ้นดบ.

– ธปท.ส่งสัญญาณ ขึ้นดอกเบี้ยแบบค่อยเป็นค่อยไป “กสิกรไทย” คาด กนง.ขึ้นดอกเบี้ย 2 ครั้ง ปีนี้ ส.ค.และพ.ย.นี้ ระดับ 0.25% หวังชะลอเงินบาทอ่อน ลดแรงกดดันเงินเฟ้อ “ธอส.” เล็งปรับขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้ครั้งแรกต.ค.นี้ เชื่อดอกเบี้ยนโยบายจะปรับขึ้นสูงสุดไม่เกิน 1%

– สมช.เผย 1 ก.ค.คลอดแผนเร่งด่วนรับมือวิกฤติพลังงาน-อาหาร ชี้ “เงินเฟ้อ” เป็นปัญหาเร่งด่วน ทำแผน 3 ระยะ ทำงานคู่ขนานกระทรวงพลังงาน ผนึกความร่วมมือภาคเอกชนเร่งแก้ปัญหา “ไออาร์พีซี” ยืนยัน “ค่าการกลั่น” ไม่ใช่กำไร พร้อมให้ความร่วมมือหั่นกำไรบนเงื่อนไขตามหลักธรรมาภิบาล

– ร.ฟ.ท.เผยพร้อมส่งมอบ พื้นที่ก่อสร้างไฮสปีด 3 สนามบิน 100% “อัยการ” ยืนยันลำรางสาธารณะมักกะสันไม่เป็นปัญหา เดินหน้าชง สกพอ.ต้นเดือน ก.ค.นี้ ขอเห็นชอบแก้ไขสัญญาก่อน เสนอ ครม.ตั้งเป้าออก NTP ไฟเขียว “เอเชีย เอราวัน” เริ่มงานก่อสร้างไม่เกิน 4 ม.ค.ปีหน้า พร้อมต่ออายุเอ็มโอยูบริหารแอร์พอร์ตเรลลิงก์

– นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (บอร์ด สสว.) ว่าที่ประชุมรับทราบรายงานสถานการณ์ภาพรวมเศรษฐกิจของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (MSME) โดยได้ปรับประมาณการสถานการณ์ภาพรวมเศรษฐกิจของ MSME ตลอดปี 65 ขยายตัว 3.4-4.5% ลดลงจากที่เคยประมาณการไว้เมื่อวันที่ 7 ก.พ.65 ที่ 3.5-4.9%

 

*หุ้นเด่นวันนี้

– BA (คิงส์ฟอร์ด) “ซื้อสะสม” ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 10.65 บาท) แนวโน้มกลุ่มการบินปรับตัวดีขึ้นจากการเริ่มเปิดรับนักท่องเที่ยวเพิ่มหลังรัฐยกเลิก Thailand Pass 1 ก.ค.นี้ ขณะที่บริษัทเตรียมขายสนามบินสมุยบางส่วนเข้ากองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาฯ (REITS) โดยให้ทาง บ.กรุงเทพ รีทแมเนจเม้นท์ เช่าสิทธิลงทุนใน BAREIT ปีนี้ ด้านราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดเป็นปัจจัยบวกเสริมจากประโยชน์ด้านต้นทุนค่าเชื้อเพลิงขอบริษัทฯ โดยบริษัทวางเป้าเที่ยวบินปี 65 ที่ 3.4 หมื่นเที่ยวบิน ปริมาณผู้โดยสาร 2.64 ล้านคน วางแผนเปิดเที่ยวบินเพิ่ม 13 เส้นทางใน Q2/65 ส่วน IATA คาดอุตสาหกรรมการบินโลกจะกลับสู่ภาวะปกติในปี 67

– BCH (ฟินันเซีย ไซรัส) “เก็งกำไร” ราคาเป้าหมาย 28.50 บาท แม้แนวโน้มกำไรไตรมาส 2/65 จะชะลอตัวจาก Low Season และสถานการณ์โควิดที่คลีคลาย แต่ตลาดมองข้ามการดำเนินงานหลักที่ยังเติบโตแข็งแกร่งทั้งผู้ป่วยไทย ต่างชาติ และรายได้ประกันสังคม รวมถึง รพ.ใหม่ที่เพิ่งเปิด 1-2 ปีไม่ถ่วงผลงานแล้ว คาดกำไรปี 65-66 -32% Y-Y และ -58% Y-Y แต่คาดกำไรปี 66 จะยังสูงกว่าช่วงก่อนโควิดถึงกว่า 50% ระยะสั้นคาด Downside จำกัด-มีโอกาส Technical Rebound จากแนวรับหลัก

– COM7 (เคทีบีเอสที) เป้าเชิงกลยุทธ์ 35 บาท ลุ้นราคาหุ้นเริ่มฟื้นตัวหลังปรับฐานกว่า 2 เดือน (-23%) ขณะที่ Secure Order และสินค้าคงคลัง Smart Phone และสินค้า IT ดีขึ้น มีของพร้อมขาย เตรียมเปิดตัว Iphone 14 ใน Q3-Q4/65 กระแสจาก Fan Base ค่อนข้างดีคาดหนุนยอดขาย Iphone 13&14 รวมถึง Ipad ให้โตต่อ ด้านอุตสาหกรรมกำลังซื้อสินค้ากลุ่ม Mid-High Price range ดี ประเมินกำไรสุทธิปี 65-66 ที่ 3.27 พัน ลบ.และ 3.99 พัน ลบ. +24%YoY, +22%YoY ตามลำดับ

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (24 มิ.ย. 65)

Tags: ,
Back to Top