BLESS เปิดเทรดวันแรกที่ 1.56 บาท สูงขึ้น 11.43% จากราคา IPO

ราคาหุ้น BLESS เปิดเทรดวันที่ 1.56 บาท สูงขึ้น 11.43% หรือเพิ่มขึ้น 0.16 บาท จากราคา IPO ที่ 1.40 บาท

บล.ทรีนีตี้ ระบุในบทวิเคราะห์ว่า บมจ.เบล็ส แอสเสท กรุ๊ป (BLESS) เป็นผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์แนวราบกระจายบริเวณกรุงเทพชั้นนอกและปริมณฑล ก่อสร้างด้วยระบบ Wall Form ที่มีความแข็งแรงและควบคุมต้นทุนได้ดี โดยการ IPO ครั้งนี้จะช่วยให้บริษัทสามารถใช้เป็นเงินทุนในการซื้อที่ดินเพื่อพัฒนาโครงการใหม่ และใช้ชำระหนี้คืนเงินกู้แก่สถาบันการเงินและใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน

ประเมิน Fair value สิ้นปี 66 ที่ 1.53-1.62 บาท อ้างอิงวิธี P/E 8.5-9.0 เท่า ซึ่งเป็นระดับ Forward PE เฉลี่ยของบริษัทจดทะเบียนที่ประกอบธุรกิจใกล้เคียงกัน

ความน่าสนใจในการลงทุน BLESS

1. โครงการหลากหลาย ก่อสร้างแข็งแรง : โครงการมีความหลากหลาย ทั้งคอนโด ทาวน์โฮม บ้านแฝด บ้านเดี่ยวบนพื้นที่ศักยภาพ กระจายบริเวณกรุงเทพชั้นนอกและปริมณฑล สามารถตอบโจทย์ลูกค้าได้ทุกความต้องการ โดยที่มีโครงการใน Inventory มูลค่ากว่า 3,117 ล้านบาท และมีโครงการบ้านเดี่ยวที่กำลังจะเปิดตัวใหม่ มูลค่า 770 ล้านบาท ทั้งนี้ โครงการของ BLESS สร้างด้วยระบบ Wall Form ที่มีความแข็งแรงและรวดเร็ว

2. ยังคงเน้นโครงการแนวราบ : BLESS มี Proven Track record จากโครงการที่พัฒนาทั้งหมด 15 โครงการ ปิดการขายแล้ว 6 โครงการ และอยู่ระหว่างพัฒนา 9 โครงการ โดยหลังการ IPO คาดว่าจะมีการเปิดตัวโครงการใหม่ราว 2-3 โครงการต่อปี โดยยังคงเน้นโครงการแนวราบ เนื่องจากเป็นโครงการที่มี Demand สูง มีปัจจัยสนับสนุนจากการใช้ชีวิตแบบ New normal และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ

3. ผู้บริหารเป็นผู้มีประสบการณ์ : ผู้บริหารมีประสบการณ์ในธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์มานานกว่า 20 ปี เชี่ยวชาญด้านการควบคุมการก่อสร้างและพัฒนาโครงการอย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้มีอัตราการทำกำไรขั้นต้นที่สูงกว่า 30%

4. แนวโน้มผลการดำเนินงานการเติบโตอย่างต่อเนื่อง : คาดบริษัทมีความสามารถในการทำกำไรดีขึ้น โดยประมาณการกำไรสุทธิปี 65-66 จำนวน 107 ล้านบาท และ 144 ล้านบาท ตามลำดับ คิดเป็นการเติบโตในอัตราเฉลี่ย (CAGR) 34.2% ต่อปี คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิต่อยอดขาย 10.3% และ 11.4% ตามลำดับ ปัจจัยหนุนจากโครงการพร้อมขายและการเปิดตัวโครงการบ้านเดี่ยวใหม่ที่คาดจะสามารถทำยอดขายได้ดี และมีที่ดินรอการพัฒนาอีกกว่า 488 ล้านบาท

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (07 ก.ค. 65)

Tags: , , ,
Back to Top