หุ้นไทยแนวโน้มดัชนีเช้าแกว่งไซด์เวย์ตามภูมิภาคจากราคาน้ำมันร่วง-รอตัวเลขศก.สหรัฐ

นักวิเคราะห์ฯ คาดตลาดหุ้นไทยเช้านี้ แกว่งไซด์เวย์ตามตลาดในภูมิภาค จากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลงมา และนักลงทุนรอดูตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐในช่วงปลายสัปดาห์นี้ แต่ยังมีปัจจัยหนุนจาก MSCI ปรับเพิ่มน้ำหนักหุ้นไทย ให้แนวรับ 1,620 จุด และแนวต้าน 1,647-1,655 จุด

นายกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน บล.โนมูระ พัฒนสิน กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดแกว่งไซด์เวย์ตามตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชีย โดยมีปัจจัยกดดันมาจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลงมากว่า 5% จากความวิตกกังวลเกี่ยวกับความต้องการใช้น้ำมันที่มีแนวโน้มชะลอตัวลง หลังจากธนาคารกลางทั่วโลก ส่งสัญญาณเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ

ประกอบกับนักลงทุนรอดูตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐในช่วงปลายสัปดาห์นี้ ทั้งตัวเลข PMI และ ตัวเลขภาคแรงงาน ซึ่งจะเป็นตัวชี้วัดทิศทางการปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ขณะที่ดัชนี MSCI มีการปรับเพิ่มน้ำหนักหุ้นไทยวันนี้

ให้แนวรับ 1,620 จุด และแนวต้าน 1,647-1,655 จุด

*ประเด็นพิจารณาการลงทุน

– ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (30 ส.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิด 31,790.87 จุด ร่วงลง 308.12 จุด หรือ -0.96%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,986.16 จุด ลดลง 44.45 จุด หรือ -1.10% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,883.14 จุด ลดลง 134.53 จุด หรือ -1.12%

– ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 27,928.09 จุด ลดลง 267.49 จุด หรือ -0.95%, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 19,589.85 จุด ร่วงลง 359.18 จุด หรือ -1.8% และดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,216.53 จุด ลดลง 10.69 จุด หรือ -0.33%

– ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (30 ส.ค.65.) ที่ระดับ 1,639.45 จุด เพิ่มขึ้น 12.93 จุด, +0.79%

– นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,971.88 ล้านบาท เมื่อวันที่ 30 ส.ค.65

– ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ต.ค.(30 ส.ค.) ร่วงลง 5.37 ดอลลาร์ หรือ 5.5% ปิดที่ 91.64 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 22 ส.ค.

– ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (30 ส.ค.) อยู่ที่ 6.70ดอลลาร์/บาร์เรล

– เงินบาทเปิด 36.50 อ่อนค่าจากวานนี้ ตลาดรอตัวเลขศก.ไทย-สหรัฐ ให้กรอบ 36.30-36.55

– “ประวิตร” นั่งหัวโต๊ะ ครม.นัดแรกอนุมัติ 6.3 พันล้านบาท อัดงบลงท้องถิ่นซ่อมถนน-แหล่งน้ำ 5.2 พันล้าน พร้อมจ่ายเบี้ย อสม. ถอนวาระของบอุ้มค่าไฟฟ้า 8 พันล้าน เผยงบกลางเหลือแค่หมื่นล้าน กันไว้เหตุฉุกเฉิน รอมหาดไทยเสนออีกครั้ง “สุพัฒนพงษ์” ห่วงปมพลังงานแพง-ดอกเบี้ยขึ้น หารือแบงก์พาณิชย์ตรึงดอกเบี้ย ชงรักษาการ นายกฯ ประชุม กพช.แก้ปัญหาประเด็นเศรษฐกิจที่ค้าง

– สกพอ.เร่งสรุปรายละเอียดสัญญาไฮสปีดเทรนเชื่อมสามสนามบิน ลุ้น “สุพัฒนพงษ์” ไฟเขียวภายใน ก.ย.นี้ ด้าน ร.ฟ.ท.พร้อมส่งมอบพื้นที่ ขีดเส้นแก้สัญญาลงนามใหม่ภายใน 4 ม.ค.2566 เตรียมออก NTP เริ่มงานใน 45 วัน

– ส.อ.ท.เผยผล FTI Poll ครั้งที่ 20 ชี้เอกชนกังวลค่าไฟแพง กระทบค่าครองชีพประชาชนและต้นทุนการผลิตของภาคอุตสาหกรรม หวั่นปรับราคาขายปลีกสินค้า-บริการเพิ่มขึ้นอีกไม่เกิน 10% ในปลายปี

– ตลาดจับตา กระแสเงินทุนต่างชาติช่วง 4 เดือนที่เหลือ หลัง 8 เดือนแรกเงินทะลักตลาดหุ้นไทย 1.7 แสนล้านบาทสูงเป็นประวัติศาสตร์ แต่ไหลออกตลาดบอนด์ 1.4 หมื่นล้านบาท เหตุทำกำไรน้อยจากทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้น “ยูโอบี-กสิกรไทย” ชี้ คาดสิ้นปีต่างชาติถือหุ้นสะสม 1.8 แสนล้านบาท ค่ายกรุงไทย เผยหุ้นไทยยังดึงดูด ทั้งรายตัวและรายกลุ่มอุตสาหกรรม

– นักวิชาการชี้ปรับค่าจ้างแรงงานทุบซ้ำผู้ประกอบการรายย่อยสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทยแนะตั้งคณะทำงานร่วมหาทางลดผลกระทบระยะสั้น-ระยะยาว หวั่นกระทบจ้างงานเอสเอ็มอี 12 ล้านคน จี้รัฐยื่นมือช่วยเรื่องต้นทุนการผลิต-ต้นทุนทางการเงิน ขณะที่นายกสมาคมการจัดการงานบุคคลฯ จับตาบัณฑิตใหม่หางานยากขึ้นศูนย์วิจัยกสิกรไทยฟันธงขึ้นค่าแรงกระทบกำไร 5-15%

*หุ้นเด่นวันนี้

– SCGP (กรุงศรี) “ซื้อ” เป้า 62 บาท ผลกำไรทยอยฟื้นตัว โดยไตรมาส 2/65 มีกำไรสุทธิ 1,856 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 11.9%qoq ขณะที่ระยะสั้นได้ Sentiment บวกจากราคาพลังงานที่ลดลงคาดหนุน GPM เพิ่มขึ้น กลุ่มธุรกิจ E-Commerce ยังขยายตัวเป็นบวกต่อธุรกิจ Packaging ของ SCGP

– CKP (ดาโอ) เป้าเชิงกลยุทธ์ 5.45 บาท แนะนำทยอยซื้อสะสม CKP ซึ่งราคาค่อนข้าง Laggard SET ขณะที่ผลประกอบการไตรมาส 3/65 คือ Peak Season ปริมาณน้ำที่เพิ่มขึ้นจะหนุนการผลิตไฟฟ้าของโครงการหลัก (ไซยะบุรี น้ำงึม และ BIC) มีการลงทุนโครงการใหม่ๆ เข้ามาอย่างต่อเนื่อง มีเป้าหมายเพิ่มกำลังการผลิตเป็น 4.8GW ในปี 2567 DAOL ประเมินกำไรสุทธิปี 2565-2566 ที่ 2.15 พัน ลบ. และ 2.47 พัน ลบ. -1.2%YoY, +15%YoY ตามลำดับ

– ADVANC (พาย) “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 246.00 บาท เชื่อว่ายอดขายจะโตดีขึ้นในครึ่งปีหลังปี 65 เพราะ 1) การขยายกิจการบรอดแบนด์ไปยังพื้นที่ชนบทใหม่ที่มีการแข่งขันต่ำ 2) การที่บริการคลาวด์และ Disney Plus ยังมีอุปสงค์แข็งแกร่งต่อเนื่อง และ 3) คาดสงครามราคาจะไม่แย่ไปกว่าสถานการณ์ปัจจุบัน

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (31 ส.ค. 65)

Tags: , ,
Back to Top