กมธ.กัญชา ถกนัดสุดท้ายก่อนเสนอกลับเข้าสภาอีกรอบ หลังปชป.-พท.ส่งประเด็นข้อห่วงใยแล้ว

นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) พิจารณาร่าง พ.ร.บ. กัญชา กัญชง พ.ศ…. กล่าวว่า หลังจากที่ประชุมสภามีมติให้ถอนร่างพ.ร.บ.กัญชาฯ ออกจากวาระการประชุมสภา วันนี้กมธ.ได้มีการประชุมครั้งสุดท้าย หลังจากที่ได้รับประเด็นข้อสงสัย และข้อห่วงใยจากพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) และพรรคเพื่อไทย (พท.) แล้ว ซึ่งจากที่พิจารณาประเด็นเหล่านั้น พบว่าสิ่งที่ห่วงใยไม่ได้อยู่นอกเหนือจากในร่างพ.ร.บ.ที่นำเสนอต่อสภาฯ อย่างน้อยแสดงให้เห็นว่าไปในทิศทางเดียวกัน

นายศุภชัย กล่าวต่อว่า วันนี้จึงหวังว่าหลัง กมธ.ทบทวนและนำเสนอเข้าสู่สภาฯ อีกครั้ง ทางสภาฯ จะบรรจุเป็นระเบียบวาระแล้วจะพิจารณาให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว เพราะขณะนี้สถานการณ์น่าเป็นห่วงจากข่าวต่างๆ ที่เกิดขึ้น แม้จะเป็นกรณีเล็กน้อย แต่ก็ทำให้เห็นว่าประกาศของกระทรวงสาธารณสุข ยังสามารถบังคับใช้ได้พอสมควร แต่เรื่องความเสรีมันไม่มีจำกัด และกลับมีมากเกินไป ซึ่งกฎหมายฉบับนี้จะสามารถคุ้มครองสังคมให้ปลอดภัยยิ่งขึ้นอย่างสบายใจได้

“สิ่งที่เราได้ข้อสรุปอีกอย่างหนึ่ง คือปัญหาสังคมไทยมีความไม่รู้ ไม่เข้าใจในเรื่องกัญชาเพียงพอ ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ ดังนั้น กมธ. จึงได้เขียนไว้ในร่างกฎหมายมอบอำนาจให้หน่วยราชการที่รับผิดชอบต้องให้ความรู้ การศึกษากับสังคมให้มากขึ้น เพราะไม่อยากให้ประโยชน์ของกัญชาที่มีอย่างมากมายต้องตกไป เพราะมีปัจจัยอื่นเข้า หากสภาได้รับรู้เจตนารมณ์นี้ ก็จะเดินหน้าผลักดันออกมาเป็นกฎหมายได้ภายในสภาชุดนี้”

นายศุภชัย กล่าว

ขณะที่สมาคมวิจัยแห่งประเทศไทย เครือข่ายวิสาหกิจชุมชนพืชสมุนไพรทางการแพทย์เพื่อสังคม สมาคมอุตสาหกรรมกัญชา กันชง กลุ่มสายเขียว และสมาคมแพทย์แผนไทยแห่งประเทศไทย ได้ยื่นหนังสือสนับสนุนร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง (ฉบับที่…) พ.ศ…. ต่อนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ผ่าน นพ.สุกิจ อัถโถปกรณ์ ที่ปรึกษาประธานสภาผู้แทนราษฎร และ กมธ.วิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.กัญชาฯ

นายพิพัฒน์ นนทนาธรณ์ นายกสมาคมนักวิจัยแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การมีร่างพ.ร.บ.ฉบับดังกล่าว สามารถช่วยให้ผู้ป่วยเข้าถึงยาได้อย่างมีคุณภาพและใช้ได้อย่างถูกต้อง ส่วนที่มีความกังวลว่าจะถูกนำไปใช้ในนันทนาการนั้น คิดว่าในส่วนของประกาศของกระทรวงสาธารณสุขมีความครอบคลุมอยู่แล้ว แต่หากพิจารณาตามร่างพ.ร.บ.ก็สามารถออกเพิ่มเติมได้ เพื่อให้มีโทษทางอาญาต่างๆ ได้ เช่น การขายให้เด็กที่อายุต่ำกว่า 18-20 ปี ตามที่กฎหมายกำหนด ฉะนั้นเพื่อไม่ให้มีสุญญากาศมาก จึงอยากเรียกร้องให้ทางสภาฯ ได้พิจารณาให้ร่างพ.ร.บ.ฉบับดังกล่าวผ่านวาระ 2 และ 3 รวมถึงให้ผ่านที่ประชุมวุฒิสภา และมีการประกาศใช้เป็นกฎหมาย

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (03 ต.ค. 65)

Tags: , , ,
Back to Top