บล.พาย คาด SET สัปดาห์นี้ฟื้นตัวรับเฟดส่งสัญญาณผ่อนคันเร่งขึ้นดอกเบี้ย

บล.พาย คาดสัปดาห์นี้มีความเป็นไปได้ที่ SET INDEX จะปรับเพิ่มขึ้นประเมินกรอบ 1,585-1,625 หนุนจากปัจจัยบวกด้านอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 และ 10 ปีที่อ่อนตัวลงในวันศุกร์หลังจากประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) บางสาขาออกมาให้ข้อมูลว่าถึงเวลาแล้วที่เฟดจะต้องเริ่มหารือเกี่ยวกับการขึ้นดอกเบี้ยในอัตราที่น้อยลง ขณะที่บางท่านให้ความเห็นว่าเฟดควรปรับขึ้นดอกเบี้ยไว้บริเวณ 4.5% และปีหน้าควรจะคงไว้ที่ระดับดังกล่าว

โดยความเห็นล่าสุดจาก CME FED WATCH เริ่มมีท่าทีที่อ่อนลงโดยการประชุมเดือนธ.ค.ที่จะถึงนี้ จากเดิมตลาดประเมินไว้ว่าจะมีการขึ้นดอกเบี้ย 0.75% น้ำหนักส่วนมากเริ่มลงมาเหลือเพียง 0.5% ผลกระทบต่อประเทศไทยเงินบาทมีโอกาสกลับมาแข็งค่าขึ้นบ้าง และมีโอกาสที่ Fund Flow ต่างชาติจะไหลกลับเข้าตลาดหุ้นไทย

พรั้อมมองว่าหุ้นขนาดใหญ่จะเป็นกลุ่มที่น่าสนใจประกอบไปด้วย ค้าปลีก (BJC CRC CPALL HMPRO) ท่องเที่ยว (AOT CENTEL ERW MINT SPA) ธนาคาร (BBL KBANK SCB TISCO) โรงไฟฟ้า (BGRIM GPSC)

ด้านตัวเลขเศรษฐกิจสัปดาห์นี้ที่ต้องติดตาม ได้แก่ การประกาศความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯในวันอังคาร Bloomberg คาดที่ 105.7 คำสั่งซื้อสินค้าคงทนในวันพฤหัสบดี Bloomberg คาดที่ 0.6% เมื่อเทียบกับเดือนก่อน และยอดขายบ้านใหม่ของสหรัฐฯในวันพุธ Bloomberg คาดที่ 5.79 แสนหลังคาเรือน ทั้งนี้ ตัวเลขเศรษฐกิจที่ประกาศออกมามองว่าหากต่ำกว่าคาดการณ์จะดีกับตลาดหุ้นมากกว่า เพราะคลายกังวลกับภาวะเงินเฟ้อและยิ่งสนับสนุนให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรปรับลงต่อเนื่อง

ส่วนในประเทศเน้นไปที่การประกาศผลประกอบการไตรมาส 3/65 หลังกลุ่มธนาคารพาณิชย์ฯรายงานกำไรที่น่าประทับใจก็คาดหวังว่ากลุ่ม Domestic จะรายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่งเช่นกัน หากเป็นเช่นนั้นก็มีความเป็นไปได้ที่ปัจจัยด้านผลประกอบการจะเป็นปัจจัยหนุนตลาดหุ้น เชิงกลยุทธ์การลงทุนยังเน้นหุ้นขนาดใหญ่ เช่น ธนาคารพาณิชย์ (BBL KBANK SCB TISCO TTB) ค้าปลีก (BJC CRC CPALL HMPRO) ท่องเที่ยว (AOT CENTEL ERW MINT) สื่อสาร (ADVANC INTUCH) อสังหา (LH SPALI)

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯหลังจากที่ดัชนี Dow Jones เมื่อคืนปรับตัวขึ้น 1.3% ตลาดผ่อนคลายกับภาวะดอกเบี้ยของสหรัฐฯหลังรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อที่ 46.6 ต่ำกว่าตลาดคาดที่ 49.6 และต่ำกว่าเดือนก่อนที่ 49.3 ขณะที่ภาคผลิตก็ต่ำกว่าตลาดคาด ด้านราคาน้ำมันดิบลดลง 0.3% หลังจีนเปิดเผยการนำเข้าน้ำมันดิบที่ชะลอตัวลง

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (25 ต.ค. 65)

Tags: , , , ,
Back to Top