จีนกล่าวโทษ “กองกำลังที่มีแรงจูงใจแอบแฝง” ว่าจงใจเชื่อมโยงเหตุเพลิงไหม้อาคารสูงในเมืองอุรุมชี เมืองหลวงของเขตปกครองตนเองซินเจียงเข้ากับมาตรการสกัดกั้นการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ของจีน จนกลายเป็นชนวนให้เกิดการลุกฮือประท้วงทั่วประเทศในครั้งนี้
ทั้งนี้ ข้อความบนโลกออนไลน์ทั้งในจีนและต่างประเทศต่างอ้างว่า มาตรการล็อกดาวน์คุมเข้มโควิด-19 ในอุรุมชี ได้ขัดขวางความพยายามในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากเหตุไฟไหม้อาคารแห่งหนึ่งเมื่อคืนวันพฤหัสบดีที่ 24 พ.ย.ที่ผ่านมา จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 10 ราย
อย่างไรก็ตาม นายจ้าว ลี่เจียน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนได้ออกมาตอบคำถามเกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าวในการแถลงข่าววันนี้ (28 พ.ย.) โดยระบุว่า “กองกำลังที่มีแรงจูงใจแอบแฝงบนโลกออนไลน์จงใจเชื่อมโยงเหตุเพลิงไหม้เข้ากับการใช้มาตรการคุมเข้มโควิด-19 ในพื้นที่”
ในวันเสาร์ที่ 26 พ.ย. เจ้าหน้าที่ของเมืองอุรุมชีได้ออกมาแถลงข่าวตอบโต้ต่อกระแสข่าวดังกล่าว โดยปฏิเสธข้อกล่าวหาที่ว่า มาตรการควบคุมโรคโควิด-19 ได้ขัดขวางการหลบหนีและการช่วยเหลือผู้ประสบภัย แต่ระบุเสริมว่า พวกเขาจะทำการสอบสวนเพิ่มเติมต่อไป ขณะที่เจ้าหน้าที่รายหนึ่งกล่าวว่า ผู้อยู่อาศัยในอาคารที่เกิดเพลิงไหม้อาจสามารถหลบหนีได้เร็วขึ้น หากพวกเขาเข้าใจความปลอดภัยด้านอัคคีภัยมากกว่านี้
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (28 พ.ย. 65)
Tags: จีน, ประท้วง, มาตรการคุมโควิด, ล็อกดาวน์, โควิด-19, ไฟไหม้