หุ้นไทยปิดบวก 5.50 จุดฟื้นตามภูมิภาค เกาะติดตัวเลขส่งออกไทยคาดติดลบสูง

SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,609.94 จุด เพิ่มขึ้น 5.50 จุด (+0.34%) มูลค่าการซื้อขาย 50,879.78 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯ ระบุตลาดหุ้นไทยวันนี้ฟื้นตามตลาดหุ้นภูมิภาคหลังลงแรง แต่ช่วงสั้นยังเสี่ยงจากไร้ปัจจัยบวกใหม่ และพรุ่งนี้ติดตามตัวเลขส่งออกไทยเดือนพ.ย.คาดติดลบ แนวโน้มดัชนีพรุ่งนี้ฟื้นจำกัดและมีโอกาสลงทดสอบแนวรับ 1,600 จุด ให้แนวรับถัดไป 1,580 จุด ส่วนแนวต้าน 1,618 จุด

  • ตลาดหลักทรัพย์ ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,609.94 จุด เพิ่มขึ้น 5.50 จุด (+0.34%) มูลค่าการซื้อขาย 50,879.78 ล้านบาท
  • การซื้อขายหุ้นวันนี้ฟื้นขึ้นตามภูมิภาค ทำระดับสูงสุด 1,612.61 จุด และต่ำสุด 1,605.29 จุด
  • ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 569 หลักทรัพย์ ลดลง 807 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 582 หลักทรัพย์

นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ฟื้นตัวขึ้นหลังวานปรับตัวลงแรง เป็นไปตามทิศทางตลาดหุ้นเอเชีย แต่ช่วงสั้นยังมีปัจจัยเสี่ยงที่ต้องระวัง เนื่องจากไม่ได้มีปัจจัยบวกใหม่ ๆ เข้ามาหนุน ขณะเดียวกันพรุ่งนี้จะมีการเปิดเผยตัวเลขส่งออกของไทยในเดือน พ.ย.ตลาดคาดออกมาติดลบ 15-20% เมื่อเทียบกับปี 64 จากฐานสูงผิดปกติ กดดันต่อหุ้นกลุ่มส่งออกทั้งอาหารและอิเล็กทรอนิกส์ โดยเริ่มเห็นแรงขายออกมาล่วงหน้าบ้างแล้ว

แนวโน้มวันพรุ่งนี้คาดดัชนีน่าจะฟื้นตัวได้จำกัด และมีโอกาสอ่อนตัวลงไปทดสอบแนวรับที่ 1,600 จุด โดยให้ติดตามตัวเลขส่งออกเป็นหลักที่คาดว่าจะออกมาติดลบและ 4 เดือนแรกของปี 66 ยังมองว่าจะติดลบต่อเนื่องราว 5-10% ซึ่งอาจทำให้นักวิเคราะห์ปรับประมาณการหุ้นกลุ่มส่งออกลง

ให้แนวรับไว้ที่ 1,600 และ 1,580 จุด และแนวต้าน 1,618 จุด

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์

  • DELTA มูลค่าการซื้อขาย 3,605.80 ล้านบาท ปิดที่ 718.00 บาท เพิ่มขึ้น 56.00 บาท
  • PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,364.61 ล้านบาท ปิดที่ 31.00 บาท ลดลง 0.25 บาท
  • PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 2,181.41 ล้านบาท ปิดที่ 166.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
  • MTC มูลค่าการซื้อขาย 1,602.02 ล้านบาท ปิดที่ 36.25 บาท ลดลง 1.00 บาท
  • BDMS มูลค่าการซื้อขาย 1,360.32 ล้านบาท ปิดที่ 28.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (21 ธ.ค. 65)

Tags: , , ,
Back to Top