เงินบาทเปิด 34.71 คาดธุรกรรมเบาบางหลังหลายตลาดปิดทำการ

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ 34.71 บาท/ดอลลาร์ จากปิดตลาดเย็น วานนี้ที่ระดับ 34.76 บาท/ดอลลาร์

เงินบาทเช้านี้แข็งค่าเทียบกับทายตลาด โดยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ออกมาใกล้เคียงกับที่ตลาดคาด ส่งผลให้ดอลลาร์อ่อนค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินส่วนใหญ่

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ที่ 34.60 – 35.00 บาท/ดอลลาร์ สำหรับวันนี้ยัง ไม่มีตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญ เนื่องจากหลายประเทศเป็นวันหยุด เช่น อังกฤษ เยอรมัน และสหรัฐฯ จึงทำให้ตลาดอาจ เบาบาง และไร้ทิศทางได้

THAI BAHT FIX 3M (23 ธ.ค.) อยู่ที่ระดับ 1.16537% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 1.65808%

ปัจจัยสำคัญ

– เงินเยนอยู่ที่ระดับ 132.45 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 132.62 เยน/ดอลลาร์

– เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0608 ดอลลาร์/ยูโร ทรงตัวในระดับเดียวกับเย็นวันศุกร์

– อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท. อยู่ที่ระดับ 34.801 บาท/ดอลลาร์

– ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า หลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทุเลาเบาบาง ลง และรัฐบาลได้ประกาศผ่อนคลายมาตรการต่างๆ พร้อมกับเปิดประเทศเพื่อผลักดันให้เศรษฐกิจในประเทศเดินหน้าได้อีกครั้ง ช่วยให้ บรรยากาศการท่องเที่ยวในประเทศกลับมาคึกคักมากขึ้น ซึ่งช่วงเวลาวันหยุดยาวเทศกาลปีใหม่ปีนี้เป็นโอกาสที่ ททท. จะใช้ช่วงเวลาดัง กล่าวจัดกิจกรรมส่งเสริมกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศ

– ค่ายรถประเมินตลาดอีวี ปี 66 โตก้าวกระโดด คาด 2-4 หมื่นคัน รับกระแสความนิยมเพิ่ม รถใหม่เสริมตลาด แต่ยังต้อง ติดตามสถานการณ์ชิ้นส่วนขาดแคลน จับตาค่ายรถจีนแห่เข้าไทย ด้านโตโยต้า เปิดแผน ผลิตปิกอัพ อีวี เจาะตลาดเชิงพาณิชย์ ด้าน “สมาคมอีวี” มั่นใจกำลังซื้อในไทยยังมีอีกเพียบ

– ผู้บริหารเกาะฮ่องกง ประกาศเปิดพรมแดนที่ติดกับจีนแผ่นดินใหญ่อย่างเต็มรูปแบบก่อนกลางเดือนม.ค. 66 ซึ่ง จะเป็นการสิ้นสุดการปิดประเทศที่ดำเนินมานาน 3 ปี ซึ่งกำหนดขึ้นครั้งแรกเมื่อโรคโควิด-19 เริ่มระบาดในปี 63

– ผู้นำรัสเซีย ยืนยันว่า รัสเซียพร้อมเจรจรากับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในสงครามยูเครน แต่ยูเครนและกลุ่มชาติตะวัน ตกที่ให้การสนับสนุนยูเครนนั้น ปฏิเสธที่จะเจรจาด้วย

– ผลสำรวจของมหาวิทยาลัยมิชิแกนระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐ ดีดตัวขึ้นสู่ระดับ 59.7 ในเดือนธ.ค. สูง กว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 59.1 หลังจากแตะระดับ 56.8 ในเดือนพ.ย.

ดัชนีความเชื่อมั่นได้แรงหนุนจากการที่ผู้บริโภคคลายความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อ และมีความเชื่อมั่นต่อแนวโน้มเศรษฐกิจ สหรัฐ และผู้บริโภคยังคาดการณ์ว่า เงินเฟ้อจะเพิ่มขึ้น 4.4% ในช่วง 1 ปีข้างหน้า ต่ำกว่าระดับ 4.9% ที่มีการสำรวจในเดือนที่แล้ว

– กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ทั่วไป ซึ่งรวมหมวดอาหารและ พลังงาน ปรับตัวขึ้น 5.5% ในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบรายปี สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ และชะลอตัวจากระดับ 6.1% ในเดือนต.ค.

เมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี PCE ทั่วไป เพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนพ.ย. สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ หลังจาก ดีดตัวขึ้น 0.4% ในเดือนต.ค.

– ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญสัปดาห์นี้ ได้แก่ ดัชนีราคาบ้านเดือนต.ค. ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขายเดือนพ. ย. และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (26 ธ.ค. 65)

Tags: ,
Back to Top