ตลาดหุ้นเอเชียปิดเช้าบวกเป็นส่วนใหญ่ รับเงินเฟ้อสหรัฐชะลอตัว

ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าบวกเป็นส่วนใหญ่ในวันนี้ โดยเคลื่อนไหวตามทิศทางดัชนีดาวโจนส์ที่ปรับตัวขึ้นเมื่อวันพฤหัสบดี (12 ม.ค.) เนื่องจากเงินเฟ้อสหรัฐชะลอตัวลงในเดือนธ.ค. ส่งผลให้นักลงทุนคาดหวังว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะชะลอการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย

ทั้งนี้ ดัชนีนิกเกอิปิดภาคเช้าที่ระดับ 26,143.41 จุด ร่วงลง 306.41 จุด หรือ -1.16%, ดัชนีฮั่งเส็งปิดภาคเช้าที่ระดับ 21,549.42 จุด เพิ่ม 35.32 จุด หรือ +0.16% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดภาคเช้าที่ระดับ 3,181.09 จุด เพิ่มขึ้น 17.64 จุด หรือ +0.56%

ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดเช้าร่วงในวันนี้ เนื่องจากการแข็งค่าของเงินเยนถ่วงหุ้นกลุ่มส่งออก อาทิ กลุ่มผู้ผลิตยานยนต์และกลุ่มผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้า ปรับตัวลง

หุ้นสหรัฐปิดบวกเมื่อวานนี้ หลังมีการเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนธ.ค.ของสหรัฐลดลง 0.1% เมื่อเทียบรายเดือน ซึ่งเป็นการปรับตัวลงครั้งแรกในรอบกว่า 2 ปีครึ่ง

ธนาคารกลางเกาหลีใต้ (BOK) ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีก 0.25% สู่ระดับ 3.50% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปลายปี 2551 ในการประชุมวันนี้ โดย BOK ให้ความสำคัญกับการรับมือกับตัวเลขเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้น แม้มีความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวก็ตาม

สำนักงานศุลกากรจีน (GAC) รายงานในวันนี้ (13 ม.ค.) ว่า ยอดส่งออกเดือนธ.ค.ของจีนร่วงลง 9.9% เมื่อเทียบเป็นรายปี โดยมีสาเหตุมาจากการชะลอตัวของอุปสงค์ทั่วโลก อย่างไรก็ตาม ยอดส่งออกเดือนธ.ค.ออกมาดีกว่าที่นักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของสำนักข่าวรอยเตอร์คาดว่าจะลดลง 10% หลังจากที่ลดลง 8.7% ในเดือนพ.ย.

ส่วนยอดนำเข้าเดือนธ.ค.ของจีนร่วงลง 7.5% เนื่องจากการอุปโภคบริโภคภายในประเทศซบเซาลง อันเป็นผลมาจากการที่ประชาชนต้องอยู่แต่ในบ้าน เนื่องจากยอดติดเชื้อโควิด-19 พุ่งขึ้นอย่างรุนแรงหลังจากรัฐบาลยกเลิกมาตรการควบคุมโรคโควิด-19

อย่างไรก็ดี ยอดนำเข้าเดือนธ.ค.ของจีนออกมาดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าอาจจะลดลง 9.8% หลังจากที่ร่วงลง 10.6% ในเดือนพ.ย.

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (13 ม.ค. 66)

Tags: ,
Back to Top