ดาวโจนส์ฟิวเจอร์ลบ นักลงทุนจับตาผลประกอบการ

ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ปรับตัวลงในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนจับตาผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน

ณ เวลา 18.45 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ลบ 70 จุด หรือ 0.2% สู่ระดับ 34,346 จุด

ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทปิดทำการวานนี้ เนื่องในวันมาร์ติน ลูเธอร์ คิง จูเนียร์

สำหรับในการซื้อขายเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดตลาดที่ระดับ 34,302.61 จุด เพิ่มขึ้น 112.64 จุด หรือ 0.33% ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน หลังการเปิดเผยผลประกอบการธนาคารขนาดใหญ่ของสหรัฐ

ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงกว่า 100 จุด ใกล้หลุดระดับ 34,000 จุดในการซื้อขายช่วงแรกของวันศุกร์ หลังเจพีมอร์แกน เชส ซึ่งเป็นธนาคารขนาดใหญ่ที่สุดของสหรัฐเมื่อพิจารณาจากมูลค่าสินทรัพย์ ประกาศเพิ่มการกันสำรองหนี้สูญ พร้อมกับเตือนว่าสหรัฐมีความเสี่ยงที่จะเผชิญภาวะเศรษฐกิจถดถอย

ทั้งนี้ เจพีมอร์แกนได้ทำการกันสำรองหนี้สูญจำนวน 2.3 พันล้านดอลลาร์ สูงกว่าไตรมาส 3/2565 ถึง 49% และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 1.96 พันล้านดอลลาร์ ขณะเตือนว่าสหรัฐมีความเสี่ยงที่จะเผชิญภาวะเศรษฐกิจถดถอย โดยได้รับผลกระทบจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน รวมทั้งอัตราเงินเฟ้อในระดับสูง

ด้านซิตี้กรุ๊ปเปิดเผยว่า ทางธนาคารมีกำไรลดลงอย่างมากในไตรมาส 4/2565 โดยได้รับผลกระทบจากรายได้ที่ลดลงจากวาณิชธนกิจ รวมทั้งการที่ธนาคารต้องเพิ่มการกันสำรองหนี้สูญ

ทั้งนี้ ซิตี้กรุ๊ป ระบุว่า กำไรดิ่งลงมากกว่า 21% ในไตรมาส 4/2565 สู่ระดับ 2.5 พันล้านดอลลาร์ จากระดับ 3.2 พันล้านดอลลาร์ในช่วงเดียวกันของปี 2564 ขณะเดียวกัน ธนาคารได้ทำการกันสำรองหนี้สูญจำนวน 1.85 พันล้านดอลลาร์ สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 1.79 พันล้านดอลลาร์

เวลส์ ฟาร์โก เปิดเผยว่า ทางธนาคารมีกำไรและรายได้ลดลงในไตรมาส 4/2565 เนื่องจากธนาคารมีค่าใช้จ่ายทางกฎหมายจากการถูกดำเนินคดี รวมทั้งมีการเพิ่มการกันสำรองหนี้สูญ ขณะที่แบล็คร็อค ซึ่งเป็นบริษัทบริหารสินทรัพย์ใหญ่ที่สุดในโลก เปิดเผยว่า ทางบริษัทมีกำไรลดลง 18% ในไตรมาส 4/2565

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (17 ม.ค. 66)

Tags: ,
Back to Top