เงินบาทเปิด 33.08 จับตาผลประชุม BOJ วันนี้ ให้กรอบ 32.90-33.20

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 33.08 บาท/ดอลลาร์ ทรงตัวจาก เย็นวานที่ปิดตลาดที่ระดับ 33.09 บาท/ดอลลาร์

วันนี้ตลาดรอปัจจัยสำคัญคือ ผลการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เป็นหลัก ซึ่งตลาดคาดว่าอาจจะมีการปรับเปลี่ยน นโยบายควบคุมเส้นอัตราผลตอบแทนอีกรอบในการประชุมครั้งนี้ หรืออาจจะถึงขั้นยกเลิกนโยบายนี้ไปเลย ซึ่งในระหว่างที่ยังไม่มีความ ชัดเจนนี้ ทำให้เงินเยนมีความผันผวน

อย่างไรก็ดี หากสุดท้ายแล้ว มติ BOJ ไม่ได้ออกมาเป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ก็อาจจะทำให้มีแรงขายเยนในระยะสั้น ซึ่งจะมีผลมาถึงเงินบาทให้อ่อนค่าได้

“ต้องรอดูผลประชุม BOJ วันนี้ เรียกได้ว่าเป็น Big Event ตลาดดูว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงนโยบาย Yield Curve Control หรือไม่ หรืออาจจะยกเลิกไปเลย ซึ่งก็จะทำให้เยนแข็งค่าเร็ว แต่ถ้า BOJ ไม่ได้มีมติอย่างที่คาด ก็อาจจะมีแรงขายเยนระยะ สั้น ซึ่งเมื่อมีการขายเยน ก็จะไปซื้อดอลลาร์ และทำให้บาทอ่อนได้” นักบริหารเงินระบุ

นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 32.90 -33.20 บาท/ดอลลาร์

THAI BAHT FIX 3M (17 ม.ค.) อยู่ที่ระดับ 1.23084% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 1.51154%

ปัจจัยสำคัญ

– เงินเยนอยู่ที่ระดับ 128.63 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานที่ระดับ 128.73/78 เยน/ดอลลาร์

– เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0790 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานที่ระดับ 1.0816/0820 ดอลลาร์/ยูโร

– อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 33.093 บาท/ดอลลาร์

– ไพรซ์วอเตอร์เฮาส์ เผยผลสำรวจล่าสุด บ่งชี้ซีอีโอส่วนใหญ่มองเศรษฐกิจโลกปี 2566 ซบเซาหนัก ชี้ภาวะเงินเฟ้อ-จีโอ โพลิติกส์ เป็นปัญหาใหญ่ที่ฉุดเศรษฐกิจทรุด แนะผู้ประกอบการปรับโมเดลธุรกิจ

– นายกโรงแรมเผยนักลงทุน’ไทย-เทศ’เร่งสยายปีกเมืองรอง รับดีมานด์ท่องเที่ยวฟื้นหลังโควิด ด้าน’แลนด์’เบรกลงทุน ห้างหนีตลาดแข่งเดือด ขายโรงแรมระดม 4 พันล้าน ผุดแกรนด์ เซ็นเตอร์ พอยต์ แห่ง 3 พัทยา ‘ไนท์แฟรงค์’ชี้ตลาดกลับมาเป็นของผู้ ขาย เริ่มอัพราคารอบใหม่

– รายงานข่าวจาก สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า ก.ล.ต.ได้ออก ประกาศกำหนดให้ผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีการเก็บรักษาสินทรัพย์ดิจิทัลของลูกค้า ต้องมีระบบการบริหารจัดการกระเป๋าสินทรัพย์ดิจิ ทัลที่ใช้ในการเก็บรักษาสินทรัพย์ดิจิทัลและกุญแจ เพื่อให้การเก็บรักษาสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และทรัพย์สินของลูกค้ามี ความปลอดภัย

– สธ.ยันโควิด-19 ในไทยยังไม่พบระบาดเพิ่มขึ้นผิดปกติ ปรับรูปแบบรายงานยอดติดเชื้อ แยกคนไทยกับกลุ่มนักท่องเที่ยว เล็งเริ่มใช้ตั้งแต่การรายงานสัปดาห์ ที่สามเป็นต้นไป ย้ำไม่ประมาทเฝ้าระวังต่อเนื่อง จับตาเทศกาลตรุษจีนที่ประชาชนเดินทางกันมาก

– กรรมการจัดการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เรียกร้องให้จีนเดินหน้าเปิดเศรษฐกิจประเทศต่อไป เนื่องจาก การเปลี่ยนผ่านจากนโยบายโควิดเป็นศูนย์ (Covid Zero) ไปสู่การใช้ชีวิตแบบเป็นปกติมากยิ่งขึ้นของจีนนั้น ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดที่จะ ช่วยขับเคลื่อนการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปี 2566

– ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์ก เปิดเผยว่า ดัชนีภาคการผลิต (Empire State Index) ดิ่งลงสู่ระดับ – 32.9 ในเดือนม.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค. 2563 และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ -7 จากระดับ -11.2 ใน เดือนธ.ค.

– ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันอังคาร (17 ม.ค.) ขณะที่นักลงทุนจับตาผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ในวันนี้

– สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันอังคาร (17 ม.ค.) โดยตลาดถูกกดดันจากการที่นักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจาก สัญญาทองคำพุ่งขึ้นติดต่อกัน 3 วันทำการ

– ข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนธ.ค., ยอดค้าปลีกเดือนธ.ค., การผลิต ภาคอุตสาหกรรมเดือนธ.ค., ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือนม.ค. จากสมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB), จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน รายสัปดาห์ และยอดขายบ้านมือสองเดือนธ.ค.

– นักลงทุนคาดการณ์ว่า BOJ อาจปรับนโยบายควบคุมเส้นอัตราผลตอบแทนอีกครั้งในการประชุมครั้งนี้ หลังจากที่ทำ การปรับในการประชุมเดือนธ.ค.65 ด้วยการขยายกรอบอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีของรัฐบาลญี่ปุ่นให้เคลื่อนไหวในช่วง – 0.5% ถึง +0.5% จากเดิม -0.25% ถึง +0.25% ซึ่งสร้างความตื่นตระหนกต่อตลาด ขณะที่มีการมองว่า BOJ กำลังส่งสัญญาณยุติ การใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายพิเศษ

– นักลงทุนจับตาความต้องการทองคำของจีนในช่วงเทศกาลตรุษจีน และทุกสัญญาณบ่งชี้จากที่ประชุมเวิลด์ อิโคโนมิก ฟอรั่ม (WEF) ที่เมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (18 ม.ค. 66)

Tags: ,
Back to Top