ราคาหุ้นกลุ่มสถานีบริการน้ำมันปรับตัวขึ้น
เมื่อเวลา 10.05 น.
PTG ปรับขึ้น 4.55% หรือ เพิ่มขึ้น 0.60 บาท มาที่ 13.80 บาท มูลค่าซื้อขาย 290.19 ล้านบาท
OR ปรับขึ้น 2.31% หรือ เพิ่มขึ้น 0.50 บาท มาที่ 22.10 บาท มูลค่าซื้อขาย 172.13 ล้านบาท
บล.ดาโอ (ประเทศไทย) ระบุจากประเด็นข่าว คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) มีมติเห็นชอบให้ปรับค่าการตลาดน้ำมันเชื้อเพลิงกลับสู่สภาวะปกติตามปี 2563 ทั้งกลุ่มน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว และกลุ่มน้ำมันเบนซินและน้ำมันแก๊สโซฮอล์ เฉลี่ยอยู่ที่ 2.00 บาทต่อลิตร โดยจะมีผลตั้งแต่ วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2566 เป็นต้นไป การปรับให้ค่าการตลาดน้ำมันกลับคืนสู่สภาวะปกติ เนื่องจากสถานการณ์ราคาน้ำมันดีเซลตลาดโลกที่มีแนวโน้มปรับตัวลดลงในช่วงที่ผ่านมา
บล.ดาโอ ประเมินเป็น positive sentiment กับกลุ่มผู้ค้าน้ำมัน โดยเฉพาะผู้ที่มีสัดส่วนการขายดีเซลในสัดส่วนที่สูงหลังจากที่ผ่านมาค่าการตลาดดีเซลถูกแคปไว้ให้ไม่เกิน 1.4 บาทต่อลิตรในระหว่างปี 2565 และเป็นที่คาดกันว่าจะถูกแคปต่อไปอีกระยะหลังกองทุนน้ำมันยังติดลบอยู่มาก การประกาศให้ปรับให้ค่าการตลาดกลับสูงเป็นภาวะปกติจึงเป็น positive surprise
ในมุมมองของเรา สำหรับบมจ.พีทีจี เอ็นเนอยี (PTG) ค่าการตลาดเฉลี่ยปี 2565 คาดอยู่ที่ราว 1.8-1.9 บาทต่อลิตร (อยู่ในระดับปกติ) ในขณะที่ ประเมินกำไรต่อลิตรของ บมจ.ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก (OR) ที่ประมาณ 1.0 บาทต่อลิตร คาดการยกเลิกการแคปดีเซลไม่ส่งผลต่อผลประกอบการอย่างมีนัยสำคัญ แต่ยังคงเป็น positive sentiment จากการลดความเสี่ยงค่าการตลาดที่ถูกรัฐแทรกแซง
โดยเรายังคงคำแนะนำ “ซื้อ” PTG ที่ราคาเป้าหมาย 18.50 บาท อิง PER 19x (ค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี -0.5SD) และ “ซื้อ” OR ที่ราคาเป้าหมายที่ 25.50 บาท อิง 2023E PER ที่ 25.4x (-1.25SD ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย PER 5 ปีย้อนหลังของกลุ่มค้าปลีก)
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (15 ก.พ. 66)
Tags: OR, PTG, บล.ดาโอ, ปั๊มน้ำมัน, หุ้นไทย