คทช. เคาะแนวทางแก้ปัญหาแนวเขตพื้นที่ทับซ้อนในอุทยานทับลาน

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) ว่า รัฐบาล คทช. และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พยายามดำเนินการแก้ปัญหาที่ดินทำกินให้กับประชาชนอย่างจริงจังและต่อเนื่อง แม้ปัญหามีความซับซ้อนหลายเรื่อง แต่ก็ขอให้ทุกคนช่วยกันทำอย่างเต็มที่ให้ดีที่สุด ถูกต้องตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ทำงานให้เร็ว แต่ต้องไม่ผิดพลาด ขับเคลื่อนการทำงานต่อเนื่องให้เกิดผลเป็นรูปธรรมตามเป้าหมาย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนให้มีที่ดินทำกินที่ถูกต้องในการสร้างอาชีพและรายได้

“รัฐบาลให้ความสนใจในการแก้ไขปัญหาที่ดินมาโดยตลอด ซึ่งหลายคนยังไม่มีที่ดินทำกิน แต่การดำเนินการ จะต้องทำอย่างถูกวิธี และปฏิบัติตามข้อกฏหมาย” นายกรัฐมนตรี กล่าว

ด้านนายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยผลประชุม คทช.ว่า ที่ประชุมฯ มีมติเห็นชอบแนวทางการใช้เส้นปรับการสำรวจแนวเขตปี 2543 เพื่อใช้ในการแก้ไขปัญหาแนวเขตที่ดินของรัฐซ้อนทับกันในพื้นที่อุทยานแห่งชาติทับลาน โดยให้กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช, กรมป่าไม้, สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) จังหวัดนครราชสีมาและจังหวัดปราจีนบุรี ร่วมกันตรวจสอบข้อมูลพื้นที่ที่ไม่ชัดเจนภายหลังจากคณะรัฐมนตรีเห็นชอบ ให้แล้วเสร็จภายใน 3 เดือน และเร่งรัดดำเนินการสำรวจเพื่อจัดทำแนวกันชน (Buffer Zone) ที่ชัดเจน

ส่วนการดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม สำหรับการดำเนินงานในพื้นที่ที่กันออกจากเขตอุทยานแห่งชาติทับลานให้กรมอุทยานแห่งชาติฯ และกรมป่าไม้ ส่งมอบพื้นที่ให้ ส.ป.ก. ดำเนินการจัดที่ดินทำกินให้ประชาชนอยู่อาศัยทำกินตามแนวทาง คทช. โดยให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามอำนาจหน้าที่และระเบียบ

สำหรับพื้นที่ผนวกเพิ่มเป็นอุทยานประมาณ 110,000 ไร่ ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ พิจารณาตามความเหมาะสมต่อไป โดยให้มีการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับทราบ และมีส่วนร่วมในการดำเนินการ และมอบหมายให้ฝ่ายเลขานุการฯ เสนอ ครม. ต่อไป

นอกจากนี้ ที่ประชุมฯ ยังได้พิจารณาการแก้ไขปัญหาพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ที่กองทัพภาคที่ 3 ส่งคืนกรมป่าไม้ ท้องที่อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ ใน 3 แนวทาง คือ 1.เห็นชอบให้กรมป่าไม้ดำเนินการเพิกถอนพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติที่กองทัพภาคที่ 3 ส่งคืนกรมป่าไม้ ท้องที่อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ เนื้อที่ประมาณ 75,675 ไร่ ให้กรมธนารักษ์ไปดำเนินการตามกฎหมายที่ราชพัสดุและระเบียบที่เกี่ยวข้อง สำหรับพื้นที่ที่คงสภาพป่าไม้ เนื้อที่ประมาณ 12,688 ไร่ ให้กรมป่าไม้เร่งรัดดำเนินการ เพื่อรักษาความสมบูรณ์ของสภาพพื้นที่ป่าไม้ รวมทั้งการสำรวจเพื่อจัดทำแนวกันชน (Buffer Zone) ที่ชัดเจนต่อไป

นายอนุชา กล่าวว่า ที่ประชุม คทช. ยังเห็นชอบการมอบหมายให้กระทรวงการคลัง โดยกรมธนารักษ์ พิจารณาดำเนินการตามพระราชบัญญัติที่ราชพัสดุ พ.ศ. 2562 ในการแต่งตั้งคณะกรรมการการเข้าทำประโยชน์ในที่ดินราชพัสดุที่รับมอบจากกรมป่าไม้ ในพื้นที่อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ พิจารณาจัดทำหลักเกณฑ์การเข้าทำประโยชน์ในที่ดินราชพัสดุที่รับมอบ ร่วมกับกรมป่าไม้ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ดำเนินการ

โดยตรวจสอบ และจำแนกกลุ่มราษฎร ประกอบด้วย ราษฎรรายเดิมที่ได้รับการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนตามนโยบายรัฐบาล, ราษฎรที่อยู่มาก่อนและหลังมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2541 เพื่อใช้ข้อมูลดังกล่าวเป็นแนวทางในการกำหนดอัตราค่าเช่าพื้นที่ และจัดทำแผนการบริหารจัดการพื้นที่ที่เหมาะสม โดยคำนึงถึงการอนุรักษ์และรักษาความสมดุลทางทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อให้เกิดความโปร่งใสถูกต้อง เป็นธรรม และเกิดประโยชน์สูงสุดต่อทางราชการ

นอกจากนี้ ที่ประชุมฯ ยังเห็นชอบการดำเนินงานในพื้นที่ที่ตรวจยึดดำเนินคดีให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม และไม่ตัดสิทธิบุคคลในพื้นที่ที่ต้องการเข้าสู่กระบวนการพิสูจน์สิทธิ์การครอบครองที่ดินของรัฐตามหลักเกณฑ์และแนวทางที่ คทช. กำหนด และมอบหมายให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และกระทรวงการคลังดำเนินการต่อไป

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (10 มี.ค. 66)

Tags: , , , , , ,
Back to Top