เลือกตั้ง’66: กกต.เปิดเกณฑ์รับสมัคร ส.ส.แบ่งเขต-ปาร์ตี้ลิสต์-ยื่นบัญชีแคนดิเดทนายกฯ

ตามที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้กำหนดให้วันที่ 3-7 เมษายน 2566 เวลา 08.30-16.30 น. เป็นวันรับสมัครเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง และในวันที่ 4-6 เมษายน 2566 เวลา 08.30-16.30 น. และในวันที่ 7 เมษายน 2566 เวลา 08.30-16.00 น. เป็นวันรับสมัครรับเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อ และแจ้งรายชื่อบุคคลที่พรรคการเมือง มีมติจะเสนอสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี นั้น

กกต. จึงได้กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการเกี่ยวกับการสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง การสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ และการแจ้งบุคคลที่พรรคการเมืองมีมติจะเสนอสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ดังนี้

การสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง

ผู้ที่จะสมัครรับเลือกตั้ง ยื่นใบสมัครรับเลือกตั้งพร้อมเอกสารหลักฐาน ต่อผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้ง ณ สถานที่ที่ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้งกำหนด

(1) สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน

(2) สำเนาทะเบียนบ้าน

(3) ใบรับรองแพทย์

(4) หนังสือรับรองการส่งผู้สมัครแบบแบ่งเขตเลือกตั้งของหัวหน้าพรรคการเมือง ซึ่งต้องมีคำรับรองด้วยว่าได้ดำเนินการถูกต้องครบถ้วนตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองแล้ว (ส.ส. 4/8)

(5) หลักฐานแสดงการเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาของปีภาษี 2563 ปีภาษี 2564 และปีภาษี 2565 ของผู้สมัคร เว้นแต่เป็นผู้ไม่ได้เสียภาษีเงินได้ ให้ทำหนังสือยืนยันการไม่ได้เสียภาษี พร้อมทั้งสาเหตุแห่งการไม่ได้เสียภาษี (ส.ส. 4/7)

(6) รูปถ่ายหน้าตรงไม่สวมหมวกและไม่สวมแว่นตาดำ ขนาดกว้างประมาณ 8.5 เซนติเมตร ยาวประมาณ 13.5. เซนติเมตร จำนวนคนละ 10 รูป

(7) เงินค่าธรรมเนียมการสมัครคนละ 10,000 บาท (หนึ่งหมื่นบาทถ้วน)

(8) เอกสารสรุปย่อประวัติของผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง

(9) หลักฐานประกอบการสมัคร รับเลือกตั้งเพิ่มเติมอย่างใดอย่างหนึ่ง ดังนี้

(9.1) หลักฐานซึ่งแสดงว่ามีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในจังหวัดที่สมัครรับเลือกตั้งเป็นเวลาติดต่อกันไม่น้อยกว่า 5 ปี นับถึงวันสมัครรับเลือกตั้ง

(9.2) หลักฐานซึ่งแสดงว่าเป็นบุคคลซึ่งเกิดในจังหวัดที่สมัครรับเลือกตั้ง

(9.3) หลักฐานซึ่งแสดงว่าเคยศึกษาในสถานศึกษาที่ตั้งอยู่ในจังหวัดที่สมัครรับเลือกตั้งเป็นเวลาติดต่อกันไม่น้อยกว่า 5 ปีการศึกษา

(9.4) หลักฐานซึ่งแสดงว่าเคยรับราชการหรือปฏิบัติหน้าที่ในหน่วยงานของรัฐ หรือเคยมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในจังหวัดที่สมัครรับเลือกตั้งเป็นเวลาติดต่อกันไม่น้อยกว่า 5 ปี

การสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ

พรรคการเมืองใดส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง และผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้งได้ออกใบรับใบสมัครรับเลือกตั้งแล้ว หากประสงค์จะส่งสมาชิกพรรคการเมืองสมัครรับเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อ ให้หัวหน้าพรรคการเมืองหรือกรรมการบริหารพรรคการเมืองผู้ได้รับมอบหมายเป็นหนังสือจากหัวหน้าพรรคการเมือง ยื่นบัญชีรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อ พร้อมทั้งหลักฐานประกอบการสมัครของผู้สมัครแต่ละคน ณ ห้องบางกอก อาคารไอราวัตพัฒนา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพมหานคร ดังนี้

(1) สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน

(2) สำเนาทะเบียนบ้าน

(3) ใบรับรองแพทย์

(4) หนังสือรับรองการส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อของหัวหน้าพรรคการเมือง ซึ่งต้องมีคำรับรองด้วยว่าได้ดำเนินการถูกต้องครบถ้วนตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองแล้ว (ส.ส. 4/8)

(5) หนังสือยินยอมให้เสนอชื่อสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ

(6) หลักฐานแสดงการเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาของปีภาษี 2563 ปีภาษี 2564 และปีภาษี 2565 ของผู้สมัคร เว้นแต่เป็นผู้ไม่ได้เสียภาษีเงินได้ ให้ทำหนังสือยืนยันการไม่ได้เสียภาษี พร้อมทั้งสาเหตุแห่งการไม่ได้เสียภาษี (ส.ส. 4/7)

(7) รูปถ่ายหน้าตรงไม่สวมหมวกและไม่สวมแว่นตาดำ ขนาดกว้างประมาณ 8.5 เซนติเมตร ยาวประมาณ 13.5 เซนติเมตร จำนวนคนละ 10 รูป

(8) เงินค่าธรรมเนียมการสมัครคนละ 10,000 บาท (หนึ่งหมื่นบาทถ้วน)

3. พรรคการเมืองที่ได้ส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง และผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้ง ได้ออกใบรับใบสมัครรับเลือกตั้งแล้ว หากประสงค์จะแจ้งรายชื่อบุคคลที่พรรคการเมืองมีมติจะเสนอสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ให้แจ้งรายชื่อพร้อมหนังสือแสดงความยินยอมของผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีต่อคณะกรรมการการเลือกตั้งไม่เกิน 3 รายชื่อ ณ ห้องบางกอก อาคารไอราวัตพัฒนา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพมหานคร

อนึ่ง บุคคลใดจะสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ให้มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งในนามของพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองเดียว และจะสมัครรับเลือกตั้งแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง หรือแบบบัญชีรายชื่อแบบใดแบบหนึ่งได้เพียงแบบเดียว และสมัครรับเลือกตั้งได้เพียงเขตเดียว

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (28 มี.ค. 66)

Tags: , , , , ,
Back to Top