นายชยันต์ เมืองสง รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เป็นประธานการประชุมหารือแนวทางการแก้ไขปัญหาและพื้นที่ที่มีแนวโน้มเสี่ยงขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภคเพิ่มเติม ร่วมกับการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น กรมชลประทาน การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กรมทรัพยากรน้ำ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด รวมทั้งสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติภาค 1 ถึง 4
สำหรับพื้นที่เฝ้าระวังเสี่ยงขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค ในเขตประปาภูมิภาค 16 สาขา 14 จังหวัด กปภ. ได้เตรียมความพร้อมสูบใช้น้ำจากแหล่งน้ำสำรอง เป่าล้างบ่อบาดาล สูบทอยน้ำ สร้างฝาย ขุดลอก ขุดขยายลำน้ำ ใช้แหล่งน้ำจากเอกชน ประชาสัมพันธ์รับรู้สถานการณ์น้ำและให้ประหยัดน้ำ
ในส่วนของพื้นที่เฝ้าระวังเสี่ยงด้านคุณภาพน้ำ ในเขตประปาภูมิภาค 6 สาขา 4 จังหวัด กปภ. ได้เตรียมการจัดหาแหล่งน้ำสำรอง รับน้ำจากพื้นที่ข้างเคียงและจากเอกชนในบางช่วงที่มีปัญหาคุณภาพน้ำ ทั้ง 20 สาขา สามารถรับมือสถานการณ์ขาดแคลนน้ำและไม่ส่งผลกระทบต่อผู้ใช้น้ำได้ตลอดฤดูแล้งนี้
นอกจากนี้ ในพื้นที่เฝ้าระวังเสี่ยงขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภคนอกเขตประปาภูมิภาค (ประปาท้องถิ่น) ที่ สทนช.ภาค 1 ถึง 4 ได้ตรวจสอบสถานการณ์ พบว่ามีปริมาณน้ำไม่เพียงพอ 10 ตำบล 8 อำเภอ 5 จังหวัด (เชียงราย เพชรบูรณ์ แม่ฮ่องสอน สุโขทัย กาฬสินธุ์) โดยหน่วยงานในพื้นที่ (องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อำเภอ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด) ได้ดำเนินการจัดหาแหล่งน้ำสำรอง บริการจัดบรรทุกน้ำแจกจ่ายให้ประชาชน ซ่อมแซมระบบประปา
นายชยันต์ ได้ขอความร่วมมือหน่วยงานในพื้นที่ประสานคณะกรรมการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติจังหวัด (ก.ช.ภ.จ) สนับสนุนรถบรรทุกน้ำเพิ่มเติมในกรณีที่รถบรรทุกน้ำไม่เพียงพอ พร้อมมอบนโยบายเพิ่มเติมว่า นอกจากการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นแล้ว ในแต่ละพื้นที่เสี่ยง ขอให้กำหนดแผนสำรองให้ประชาชนมีน้ำใช้อย่างเพียงพอ ในกรณีที่เกิดฝนทิ้งช่วงยาวนานไปจนถึงช่วงต้นฤดูฝน และมอบ สทนช.ภาค 1 ถึง 4 ร่วมติดตามและประสานความร่วมมือในพื้นที่อย่างใกล้ชิด
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (07 เม.ย. 66)
Tags: กปภ., กฟผ., กรมชลประทาน, กรมทรัพยากรน้ำ, การประปาส่วนภูมิภาค, การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย, ชยันต์ เมืองสง, ทรัพยากรน้ำ, สทนช., สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ