เลือกตั้ง’66: “ธีระชัย” ชำแหละเงินดิจิทัลเพื่อไทยส่อแววสะดุด เผชิญหลายอุปสรรค-ติดข้อกม.

นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล ที่ปรึกษาคณะกรรมการนโยบายพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) แถลงถึงนโยบายเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท ของพรรคเพื่อไทย จะสามารถทำได้จริงหรือไม่ ว่า ที่ออกมาพูดนั้นเป็นจุดยืนและความเห็นส่วนตัว เนื่องจากมองว่าเป็นโครงการที่มีคนสนใจจำนวนมาก ตนจึงได้ดูในรายละเอียดแล้วมีความเห็นว่าเป็นโครงการที่มีอุปสรรคหลายประการ ทำให้ไม่สามารถดำเนินการได้จริง

พร้อมมองว่า มีปัญหาที่จำเป็นต้องพิจารณา และแก้ไขปรับปรุง 3 ประการ ได้แก่ 1.โครงการออกแบบให้ส่งเหรียญเข้าไปในกระเป๋าดิจิทัล โดยระบุว่าเป็นแนวคิดเหมือนการใช้คูปอง โดยให้ประชาชนนำไปใช้ซื้อสินค้าหรือบริการ ลักษณะอย่างนั้นเป็นการใช้รอบเดียว แต่แนวทางในการออกแบบเหรียญดิจิทัลเพื่อไทยนั้น เป็นเหรียญที่สามารถนำมาใช้วน ชำระหนี้ระหว่างประชาชนด้วยกันได้

ดังนั้น ในความเห็นของตน การดำเนินลักษณะดังกล่าวจึงเป็นการออกเงินตราอย่างหนึ่ง เมื่อมีสภาพเป็นเงินตรา จะเข้าข้อบังคับของ พ.รบ.เงินตรา พ.ศ.2501 ประเด็นนี้อาจจะเป็นอุปสรรค จึงคิดว่าควรจะต้องศึกษาเพื่อจะหาทางออกให้เรียบร้อยก่อน ส่วนในแง่กฎหมายนั้น ระบุไว้ว่าการออกอะไรที่เป็นเงินตรา ผู้ออกสามารถขออนุญาต รมว.คลัง แต่เห็นว่า รมว.คลัง ไม่สามารถอนุญาตให้เอกชนรายใดรายหนึ่งอนุมัติสิ่งที่เป็นลักษณะเงินตราได้ เพราะ พ.รบ.ธนาคารแห่งประเทศ บัญญัติให้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เป็นองค์กรเดียวที่มีอำนาจในการออกเงินตรา ดังนั้น จึงขอแนะนำให้ไปศึกษาหาทางแก้ไขไว้แต่เนิ่นๆฃ

2.เหรียญดิจิทัล ออกแบบให้เป็นบล็อกเชน โดยมีการเก็บข้อมูลในการใช้จ่ายของผู้ใช้ จำนวนมากถึง 54 ล้านคน โดยที่ไม่จำเป็นต้องขออนุญาตจากเจ้าของข้อมูลก่อน และถ้าเปิดให้เอกชนรายใดรายหนึ่ง สามารถล้วงลึกเข้าไปในข้อมูลของการจับจ่ายใช้สอยของประชาชน 54 ล้านคนได้ จะเป็นข้อมูลที่มีมูลค่าในการตลาด มีความเสี่ยงที่จะรั่วไหล ซึ่งหากรั่วไหลขึ้นมา จะเป็นอันตรายต่อประชาชน

3.เห็นว่ารัฐบาลหน้า ถึงเวลาจำเป็นจะต้องจัดทำแผนแม่บทเกี่ยวกับเศรษฐกิจดิจิทัลสำหรับประเทศไทย เพราะขณะนี้มีแนวโน้มในการดำเนินการในระดับสากลที่เกี่ยวข้องเศรษฐกิจดิจิทัล ฉะนั้น รัฐบาลหน้าจำเป็นต้องรับมือหลายประการ ตัวอย่าง เมื่อไม่กี่วันเป็นครั้งแรกที่กองทุนระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ประกาศจัดตั้งเหรียญดิจิทัลขึ้นมา ให้มีการแลกเปลี่ยนกันข้ามพรมแดน ในขณะที่การค้าของประเทศไทยจะต้องมีการค้าขายที่สัมพันธ์กับจีนมากขึ้นในอนาคต บทบาทที่ไทยต้องคำนึงถึง คือ เงินดิจิทัลหยวนของจีนที่จะใช้อำนวยความสะดวกในการค้าขายระหว่างไทยกับจีน จึงต้องคิดและวางแผน

อีกทั้งเวลานี้โลกแบ่งเป็นสองค่าย คือ ค่ายตะวันตก และค่ายบริกส์ ที่มีบราซิล รัสเซีย อินเดีย จีน แอฟริกาใต้ ค่ายบริกส์ศึกษาทำเงินดิจทัล เพื่อจะหลีกออกไปจากสกุลดอลลาร์ ไทยจึงจำเป็นต้องมีการวางแผนในการทำเศรษฐกิจดิจิทัล

“ดูแล้ว ไม่สามารถวางแผนโดยใช้เหรียญดิจิทัลเพื่อไทย ที่ออกโดยเอกชนรายใดรายหนึ่งได้ เพราะการวางแผนรับมือ จำเป็นต้องใช้เหรียญดิจิทัลที่ออกโดย ธปท.เท่านั้น เท่าที่ดูในเชิงวิชาการ โครงการดิจิทัล 1 หมื่นบาท นับว่ายังมีปัญหาอุปสรรคที่สมควรจะต้องมีการศึกษาและวางแผนแก้ไข…ในความเห็นผม ถ้าไม่ดำเนินการป้องกันตั้งแต่ต้นๆ พอเดินแล้วจะสะดุ ดและเดินไม่ได้ ผมมีข้อกังวลว่าโครงการนี้ จะปฏิบัติไม่ได้จริง” นายธีระชัย กล่าว

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (18 เม.ย. 66)

Tags: , , , , , ,
Back to Top