นายอนุทิน ชาญวีรกูล แคนดิเดทนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) เดินทางลงพื้นที่พร้อมด้วยนายคงกฤษ ฉัตรมาลีรัตน์ ผู้สมัคร ส.ส.ระนอง แบบแบ่งเขต เพื่อรับฟังปัญหาประมง ที่จ.ระนอง โดยยอมรับว่าที่ผ่านมาปัญหายังไม่ได้รับการแก้ไขอย่างเต็มที่ และติดขัดเงื่อนไขบางอย่าง แต่เมื่อการเลือกตั้งครั้งใหม่ที่จะเกิดขึ้นเป็นรัฐบาลแล้ว จะได้นำปัญหาที่รับฟังจากพื้นที่ไปดำเนินการแก้ไขให้ด่วนที่สุด
ส่วนนโยบายเร่งด่วนที่จะเดินหน้าผลักดันภายใน 6 เดือนหลังได้เป็นรัฐบาล นายอนุทิน กล่าวว่า นโยบายที่ต้องทำทันที คือ นโยบายพักหนี้ 3 ปี หยุดต้น ปลอดดอกเบี้ย ที่ให้ความสำคัญกับนโยบายนี้ เพราะเห็นความทุกข์ของประชาชนจากสถานการณ์โควิด-19 ที่คุกคามทั่วโลก ช่วงเวลานั้นมีการกู้หนี้ยืมสินเป็นภาระเหนี่ยวรั้งชีวิต โดยคิดว่าเวลา 3 ปี น่าจะทำให้คนไทย สามารถฟื้นตัวได้ และมีความสามารถในการชำระหนี้ได้แล้ว
“การเดินหน้านโยบาย รัฐต้องออกพันธบัตร ตั้งกองทุน แล้วไปเจรจากับเจ้าหนี้ จัดการหนี้สิน และดูแลเรื่องดอกเบี้ย เชื่อว่า จะเป็นประโยชน์กับประชาชน และเจ้าหนี้ ประชาชนมีเวลาได้คิดได้ทำ ส่วนเจ้าหนี้ก็เลี่ยงปัญหาหนี้สูญได้” นายอนุทิน กล่าว
สำหรับอีกหนึ่งนโยบายที่ต้องเร่งทำอีกเรื่องคือ การให้กู้ฉุกเฉิน 5 หมื่นบาท ไม่ต้องมีคนค้ำประกัน จากนั้น ค่อยกลับมาใช้คืนพร้อมดอกหลังจากนั้น 30 วัน ทำให้คนไทยได้มีเงินหมุนเวียน เพื่อไปสร้างรายได้
ต่อมาต้องลดความวิตกกังวลทุกคนต้องมีมรดกไว้ให้ลูกหลาน หรือนโยบายกองทุนประกันชีวิต 60 ปีขึ้นไป เมื่อเสียชีวิต ครอบครัวจะได้เงินจากกรมธรรม์ที่รัฐทำให้จำนวนเงินทั้งสิ้น 1 แสนบาท ผู้สูงวัยยังสามารถกู้เงินตรงนี้มาดูแลตัวเองได้ 2 หมื่นบาท
“หลักคิดของพรรคคือเราต้องให้โอกาสคนไทย และเราเชื่อมั่นในศักยภาพของประชาชนว่าจะสามารถช่วยเหลือตัวเองได้อย่างยั่งยืน หากได้รับโอกาส เมื่อเป็นรัฐบาล นโยบายพวกนี้ เราได้เห็นความคืบหน้าใน 6 เดือนแน่นอน แต่ถ้าเป็นนายกรัฐมนตรีจะเร็วกว่านั้น” นายอนุทิน กล่าว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (24 เม.ย. 66)
Tags: การเมือง, พรรคภูมิใจไทย, อนุทิน ชาญวีรกูล, เลือกตั้ง