เงินบาทเปิด 34.34 ตลาดกลับมากังวลปัญหาภาคธนาคารสหรัฐ-รอดูตัวเลขส่งออกไทย

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 34.34 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าเล็กน้อยจากเย็นวานที่ปิดตลาดที่ระดับ 34.38 บาท/ดอลลาร์

เช้านี้เงินบาทปรับตัวแข็งค่าเล็กน้อยจากท้ายตลาดวานนี้ ล่าสุดอยู่ที่ระดับ 34.30 บาท/ดอลลาร์ โดยเมื่อคืนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ (บอนด์ยีลด์) ปรับตัวลงลึก คาดว่าตลาดมีความกังวลภาคธนาคารในต่างประเทศ ซึ่งอาจทำให้ภาคเศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัว จึงทำให้นักลงทุนเลี่ยงความเสี่ยง และหันไปถือสินทรัพย์ปลอดภัยเช่นเงินเยนแทน

“ตลาดกังวลปัญหาภาคธนาคารในต่างประเทศ นักลงทุนจึงเลี่ยงความเสี่ยง หันไปถือเยน ทำให้บาทก็ได้อานิสงส์จากตรงนี้ด้วย ขณะที่ราคาน้ำมันโลกก็ลดลง และทองคำก็เด้งขึ้น”

นักบริหารเงิน ระบุ

โดยวันนี้ ตลาดจับตาดูการรายงานตัวเลขส่งออกของไทยเดือนมี.ค. ซึ่งตลาดคาดว่าจะติดลบราว 14% เนื่องจากฐานปีก่อนสูง

นักบริหารเงิน คาดว่าวันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 34.20- 34.50 บาท/ดอลลาร์

THAI BAHT FIX 3M (25 เม.ย.) อยู่ที่ระดับ 1.77426% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 1.88843%

*ปัจจัยสำคัญ

  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 133.51 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานที่ระดับ 133.86 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0974 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานที่ระดับ 1.1030/1033 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 34.360 บาท/ดอลลาร์
  • ตลาดรอติดตามการรายงานภาวะการค้าระหว่างประเทศเดือนมี.ค.66 และไตรมาส 1/66 จากกระทรวงพาณิชย์วันนี้ ซึ่งจะมีรายงานมูลค่าการส่งออก นำเข้า และดุลการค้า โดยตลาดคาดการณ์ว่าเดือนมี.ค.นี้ การส่งออกจะหดตัวแรงถึง -14% (YoY) เนื่องจากเทียบกับฐานปีก่อนที่อยู่ในระดับสูง
  • ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการพัฒนาสกุลเงินดิจิทัลที่ออกโดยธนาคารกลาง (CBDC) ว่า ธปท.มีการพัฒนา CBDC 2 โครงการ คือ การพัฒนาสกุลเงินดิจิทัลระดับสถาบันการเงิน (Wholesale CBDC) และการพัฒนาสกุลเงินดิจิทัลภาคประชาชน (Retail CBDC) โดยการพัฒนา Wholesale CBDC แนวทางคือการเข้ามาช่วยลดอุปสรรคในการโอนเงินข้ามแดน ซึ่งต้องรอนานหลายวัน และค่าธรรมเนียมสูง ส่วนนี้ได้ต่อยอดจากเป็นโครงการ mBridge ซึ่งเป็นความร่วมมือกับธนาคารกลางฮ่องกง โดยร่วมมือเพิ่มเติมกับธนาคารกลางจีน ธนาคารกลางสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และธนาคารเพื่อการชำระหนี้ระหว่างประเทศ (BIS Innovation Hub) ทำให้ Wholesale CBDC มีความเป็นไปได้สูง และคาดว่าจะใช้ได้จริงในอีกไม่ไกลนัก
  • ธนาคารเฟิร์สท์ รีพับลิก แบงก์ (First Republic Bank) หรือ FRB ซึ่งเป็นธนาคารในระดับภูมิภาคของสหรัฐ เปิดเผยว่าลูกค้าได้แห่ถอนเงินฝากมากกว่าคาดในไตรมาส 1/2566 โดยยอดเงินฝากลดลง 40.8% สู่ระดับ 1.045 แสนล้านดอลลาร์ในไตรมาส 1 ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.450 แสนล้านดอลลาร์
  • กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดขายบ้านใหม่เพิ่มขึ้น 9.6% สู่ระดับ 683,000 ยูนิตในเดือนมี.ค. เมื่อเทียบรายเดือน จากระดับ 623,000 ยูนิตในเดือนก.พ.
  • ผลสำรวจของเอสแอนด์พี คอร์โลจิก เคส ชิลเลอร์ บ่งชี้ว่า ดัชนีราคาบ้านทั่วประเทศในสหรัฐเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนก.พ. เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากร่วงลง 0.2% ในเดือนม.ค.
  • Conference Board ซึ่งระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐปรับตัวลงสู่ระดับ 101.3 ในเดือนเม.ย. จากระดับ 104.0 ในเดือนมี.ค.
  • ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันอังคาร (25 เม.ย.) เนื่องจากนักลงทุนพากันเข้าซื้อดอลลาร์ในฐานะสกุลเงินปลอดภัย ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับวิกฤตในภาคธนาคารของสหรัฐ
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันอังคาร (25 เม.ย.) โดยสัญญาทองคำปรับตัวขึ้นติดต่อกันวันที่ 2 และกลับมายืนเหนือระดับ 2,000 ดอลลาร์ได้อีกครั้ง เนื่องจากการร่วงลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐเป็นปัจจัยหนุนตลาด
  • นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 1/2566 และดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนมี.ค. รวมทั้งจับตาการประชุมนโยบายการเงินของเฟดในวันที่ 2-3 พ.ค.นี้

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (26 เม.ย. 66)

Tags: , ,
Back to Top