ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันศุกร์ (19 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะยุติการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และการเจรจาเกี่ยวกับเพดานหนี้ของสหรัฐหยุดชะงัก
ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.37% แตะที่ระดับ 103.1924
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงแตะ 138.0760 เยนในวันศุกร์ (19 พ.ค.) จากระดับ 138.6390 เยนในวันพฤหัสบดี (18 พ.ค.) นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังอ่อนค่าลงแตะ 0.8998 ฟรังก์สวิส จาก 0.9050 ฟรังก์สวิส, ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงแตะ 1.3509 ดอลลาร์แคนาดา จาก 1.3510 ดอลลาร์แคนาดา และดอลลาร์สหรัฐลดลงแตะ 10.5292 โครนาสวีเดน จาก 10.5839 โครนาสวีเดน
ส่วนยูโรแข็งค่าขึ้นแตะ 1.0807 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0767 ดอลลาร์ และปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะ 1.2448 ดอลลาร์ จาก 1.2404 ดอลลาร์
นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดแสดงความเห็นในวันศุกร์ว่า สถานการณ์ในระบบธนาคารนั้นควบคุมได้แล้ว และเฟดจะไม่ต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากเท่ากับที่คาดไว้ก่อนหน้านี้
การเจรจาเกี่ยวกับการปรับเพิ่มเพดานหนี้ของรัฐบาลสหรัฐได้หยุดชะงักลงในวันศุกร์ หลังจากผู้เจรจาของพรรครีพับลิกันเดินออกจากห้องประชุม และยังไม่มีความชัดเจนว่า การเจรจาจะเริ่มขึ้นอีกในช่วงสุดสัปดาห์นี้หรือไม่
นายการ์เร็ต เกรฟส์ ผู้แทนพรรครีพับลิกันจากลุยเซียนาซึ่งเป็นผู้นำการเจรจาเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า “จนกว่าจะมีคนที่เต็มใจจะสนทนาอย่างมีเหตุผลเกี่ยวกับสิ่งที่ต้องการจะผลักดันจริง ๆ และทำในสิ่งที่ถูกต้อง ดังนั้นเราจะไม่นั่งอยู่ที่นี่และพูดกับตัวเราเอง”
ส่วนข้อมูลสถิติของแคนาดาที่รายงานในวันศุกร์ระบุว่า ยอดค้าปลีกของแคนาดา ลดลง 1.4% ในเดือนมี.ค.เมื่อเทียบเป็นรายเดือน ซึ่งเป็นไปตามความคาดหมายของนักเศรษฐศาสตร์ หลังจากลดลง 0.2% ในเดือนก.พ.
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (20 พ.ค. 66)
Tags: ค่าเงินดอลลาร์, ตลาดเงิน, อัตราแลกเปลี่ยน