ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบ กลุ่มสินค้าหรูหราร่วงฉุดตลาด

ตลาดหุ้นยุโรปปิดลดลงในวันอังคาร (23 พ.ค.) โดยถูกกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มสินค้าหรูหราและการเปิดเผยรายงานรายได้ที่น่าผิดหวังจากจูเลียส แบร์ ซึ่งเป็นบริษัทจัดการความมั่งคั่งของสวิตเซอร์แลนด์ ขณะที่นักลงทุนยังคงจับตาการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจของยูโรโซน และปัญหาเรื่องเพดานหนี้ของสหรัฐ

  • ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 466.10 จุด ลดลง 2.81 จุด หรือ -0.60%
  • ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,378.71 จุด ลดลง 99.45 จุด หรือ -1.33%,
  • ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 16,152.86 จุด ลดลง 71.13 จุด หรือ -0.44% และ
  • ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,762.95 จุด ลดลง 8.04 จุด หรือ -0.10%

ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลงวันเดียวคิดเป็นเปอร์เซ็นต์มากที่สุดในรอบ 3 สัปดาห์ โดยหุ้นกลุ่มสินค้าหรูหราร่วงลง 4.3% ซึ่งเป็นการร่วงลงวันเดียวรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่กลางเดือนธ.ค. ขณะที่นักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากการทะยานขึ้นในช่วงที่ผ่านมา และเริ่มมีสัญญาณอุปสงค์ที่ชะลอตัวในสหรัฐ

ดอยซ์แบงก์เปิดเผยว่า ถึงเวลาที่นักลงทุนต้องเลือกลงทุนในหุ้นกลุ่มสินค้าหรูหรา โดยระบุถึงการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐ

หุ้นหลุยส์วิตตอง ร่วง 5% หลังปรับตัวขึ้นเกือบ 23% แล้วในปีนี้ ขณะที่หุ้นแอร์เมส และเคอริง ร่วงลง 6.5% และ 3.0% ตามลำดับ

นักลงทุนยังคงวิตกเกี่ยวกับปัญหาเพดานหนี้ในสหรัฐ โดยพรรครีพับลิกันในสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐระบุว่า การเจรจากับทำเนียบขาวมีความคืบหน้าเพียงเล็กน้อยเกี่ยวกับการปรับเพิ่มเพดานหนี้ ขณะที่สหรัฐเสี่ยงเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้อย่างเร็วที่สุดภายใน 9 วัน

การเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอลงถ่วงตลาดลงด้วย โดยฮัมบูร์ก คอมเมอร์เชียล แบงก์ (HCOB) เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและบริการเบื้องต้นของยูโรโซน ปรับตัวลงสู่ระดับ 53.3 ในเดือนพ.ค. จากระดับ 54.1 ในเดือนเม.ย.

แม้ดัชนี PMI ยังคงอยู่สูงกว่าระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ว่าภาคธุรกิจของยูโรโซนยังคงอยู่ในภาวะขยายตัว แต่ตัวเลขดังกล่าวก็ต่ำกว่าโพลของสำนักข่าวรอยเตอร์ซึ่งคาดไว้ว่าจะอยู่ที่ระดับ 53.5

ส่วนหุ้นรายตัวอื่น ๆ ที่กดดันตลาดได้แก่ หุ้นจูเลียส แบร์ ร่วงลง 7.4% หลังรายงานเม็ดเงินลงทุนไหลเข้าเล็กน้อยในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ ซึ่งสร้างความผิดหวังให้กับนักลงทุนซึ่งคาดว่าจะได้ประโยชน์จากปัญหาของเครดิตสวิส

หุ้นวิวองดิ ร่วงลง 3.6% หลังมีรายงานข่าวว่านายวินเซนต์ บอลลอร์ ผู้ถือหุ้นที่มีอำนาจบริหารนั้นได้ขายหุ้นวิวองดิซึ่งเป็นบริษัทสื่อของฝรั่งเศส

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (24 พ.ค. 66)

Tags: ,
Back to Top